วันที่ 8 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล และมีกองกำลังติดอาวุธบุกจับแรงงานไทยที่ทำงานในบริเวณดังกล่าว ล่าสุด เป็นแรงงานชาว จ.อุดรธานีถึง 5 คน ประกอบด้วยนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาวบ้าน อ.สร้างส่วนภรรยานายบุญถมคือ นางณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ โย อายุ 35 ปี ชาวอ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น,นายอนุชา อ่างแก้ว ชาวตำบลปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี,นายมณี จิราชาติ ชาวต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี,นายเกียรติศักดิ์ พาที ชาวอ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี และนายมาโนช สีทอง ถูกยิงอาการสาหัส อยู่ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 บ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม พบกับนางเขียน พันธ์ฆ้อง อายุ 85 ปี แม่ของนายบุญถม พอรู้ข่าวลูกชายถูกจับมีอาการตกใจ โดยนางเขียนบอกว่า มีลูกทั้งหมด 9 คน นายบุญถมเป็นลูกคนสุดท้อง ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลหลายปีแล้ว รู้ข่าวแล้วว่าลูกชายถูกจับเพราะลูกๆ เล่าให้ฟัง ก็เป็นห่วงลูกชายกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ขณะที่นางอุไร จันทะชาติ อายุ 61 ปี พี่สาวนายบุญถม เปิดเผยว่า น้องชายคือนายบุญถมไปทำงานประเทศอิสราเอลได้ 5 ปีกว่าแล้ว พอรู้ข่าวก็ตกใจทั้งแม่และพี่สาวก็เป็นห่วงน้องชายมาก คิดถึงน้องกลัวน้องเป็นอันตราย อยากให้มีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมาหาแม่และพี่ๆ ทุกคนเป็นห่วง ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษาให้น้องชายและน้องสะใภ้รอดปลอดภัยด้วยเถิด และอยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยน้องชายและคนไทยทุกคนที่ถูกจับด้วย โดยนางอุไรพูดไปก็ร้องไห้ไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า วันนี้ (8 ต.ค.) เวลา 11.00 น.นายนพดล จงสมชัย แรงงานจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 บ้านหินโงม ตำบลหินโงม อำเภอสร้างคอม จังหวัดอุดรธานี เพื่อเยี่ยมครอบครัวนายบุญถมฯ สร้างขวัญกำลังใจ พร้อมแจ้งข้อมูลข่าวสาร ชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบ
สำหรับจ.อุดรธานี มีรายงานว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยที่เป็นคนจ.อุดรธานีถึง 5 คนที่ถูกจับและได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ โดยทางเจ้าหน้าที่จากแรงงานจ.อุดรธานีและจัดหางานจ.อุดรธานีจะเดินทางไปพบกับครอบครัวผุ้ประสบภัยทั้งหมดในวันนี้
ส่วนกรณีที่ว่านางศิริวรรณ พันธ์ฆ้องถูกจับพร้อมกับนายบุญถม เป็นสามีภรรยากัน ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ นายบุญถมถูกจับพร้อมกับนางณัฐฐาวรี มูลกัน ภรรยาชาวจ.ขอนแก่น ส่วนนางศิริวรรณซึ่งเป็นหลานสาวของนายบุญถม ออกมายืนยันตัวตนว่า ตนเองไม่ได้ถูกจับ แต่ก่อนเคยไปทำงานประเทศอิสราเอล กลับบ้านบ้านตั้งแต่ปี 62 หรือ 4 ปีที่แล้ว พร้อมกับนำบัตรประชาชนมายืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ฯ ว่าไม่ได้ถูกจับ ข่าวออกไปคลาดเคลื่อน