2 หนุ่มวังด้ง กาญจน์ ควบเก๋งเร็วสูง พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า ร่างกระเด็นออกนอกรถตกในดงอ้อยคอหักเสียชีวิต 1 บาดเจ็บสาหัสคาซากอีก 1
วันที่ 7 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.12 น.ของวันที่ 7 ต.ค.66 ร.ต.อ.สงคราม สิทธิสร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลวังศาลาว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำบนถนนลูกรังเส้นตัดผ่านโครงการสภาอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ที่หมู่ ต.วังศาลา อ.ท่าม่วงฯ มีผู้เสียชีวิต 1ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1ราย หลังทราบเรื่องจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำสำนักงานใหญ่ และจุดรอรับเหตุตำบลบ้านใหม่ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กย.2759 เชียงใหม่ จอดอยู่ในสภาพพลิกคว่ำหลายตลบล้อ 4 ล้อชี้ฟ้า ห่างออกไปประมาณ 200 เมตรพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย สภาพศพตามร่างกายมีร่องรอยถลอกหลายแห่ง ลำคอหักผิดรูปนอนหงายอยู่ในดงอ้อย ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนทราบชื่อนายนพดล(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่18 หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการสอบสวนยังทราบอีกว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย อาการสาหัส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้นำตัวส่ง รพ.ฯไปแล้ว ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง สอบสวนทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้ชึ่อนายพลวัฒน์(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 48 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เบื้องต้นจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ทำไมผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงขับรถโดยใช้เส้นทางดังกล่าว ปกติคนทั่วไปจะไม่ใช้ถนนสายดังกล่าว เนื่องจากเป็นถนนลูกรังที่พื้นผิวการจราจรเป็นหลุมบ่อตลอดทั้งสาย
ถ้าไม่มีธุระจำเป็นจะไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรเข้า-ออก หากไม่จำเป็น ถึงแม้ชาวบ้านในเขต อ.ท่าม่วงฯ จะทราบว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางลัดออกไปสู่ถนนแสงชูโตสายเก่าก็ตาม
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเกิดจากความประมาท ขับรถเร็วสูง จึงทำให้รถเกิดพลิกคว่ำก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุทึ่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา หากญาติติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ก็จะส่งศพผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
