วันที่ 7 ต.ค.66 ที่สำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษา ว่า กทม.ให้ความสำคัญอันดับต้น ไม่แพ้เรื่องน้ำท่วม เรื่องขยะ และรถไฟฟ้า เนื่องจาก ถ้าการศึกษาไม่ดี ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเรื่องใดได้ คนขาดความรู้ความเข้าใจ ที่ผ่านมาอาจไม่พูดถึงการศึกษามาก แต่เชื่อว่าเป็นหัวใจในการเปลี่ยนเรื่องความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันต้องพัฒนาด้านสาธารณสุขควบคู่ไปด้วย โดยกทม.ตั้งเป้าให้โรงเรียนในสังกัดเปลี่ยนรูปแบบเป็นการศึกษาสำหรับอนาคต เริ่มจากครูมีความรู้ เด็กมีความรู้ ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและตลาดแรงงาน โดยเฉพาะเรื่อง AI สามารถประยุกต์เป็นเครื่องมือในการทำงานได้ โรงเรียนของกทม.ต้องตื่นตัว เตรียมสอนเรื่องนี้ในอนาคต ส่วนเทคโนโลยีที่โลกต้องการ กทม.พร้อมนำมาสู่ครูและนักเรียน เพื่อให้มีความรู้ทัดเทียมสากล

 

ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันกทม.ดำเนินโครงการห้องเรียนActive Learning หรือห้อง Google Classroom อบรมครูไปแล้ว 11 โรงเรียน หากได้รับคอมพิวเตอร์มาก็จะส่งต่อให้โรงเรียนที่มีความพร้อมผ่านการอบรม รวมถึงการจ้างฝ่ายธุรการกว่า 370 อัตรา เพื่อช่วยลดภาระครู ได้รับรายงานว่าธุรการ 1 คน ช่วยครูได้ถึง 10 คน ส่วนในระยะยาว ต้องลดเรื่องเอกสาร และเน้นย้ำให้ลดกิจกรรมเยี่ยมโรงเรียน โดยโครงการต่าง ๆ ต้องประสานที่สำนักการศึกษาก่อน จึงกระจายสู่โรงเรียน แต่ที่ผ่านมาหลายครั้งพบมีการไปประสานโรงเรียนก่อน ทำให้โรงเรียนมีภาระมาก ทั้งหมดเป็นแนวทางเพื่อให้ครูมีเวลาอยู่กับนักเรียนมากขึ้น