เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม  ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์  ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานจัดการประชุมถอดบทเรียนและเผชิญเหตุกราดยิง โดยมีผู้แทนหน่วยงานความมั่นคง อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพและผู้ประกอบการศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ร่วมประชุมและเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายทรรศนะ   

นายชรินทร์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากเหตุเด็กชายอายุ14 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานครรวมทั้งเหตุ “จ่าคลั่ง” ใช้อาวุธสงครามกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย บาดเจ็บ 58 ราย จึงต้องถอดบทเรียนนำไปสู่การกำหนดมาตรการป้องกันและรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเป็นการเตรียมความพร้อมป้องกันและเผชิญเหตุการณ์รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งเน้นย้ำมาตรการตรวจสอบบุคคลบริเวณประตูทางเข้าอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแต่งกายปกปิดอำพรางใบหน้า รวมถึงตรวจสอบและสังเกตความผิดปกติและพฤติกรรมของยานพาหนะที่เข้าไปภายในตัวอาคารห้าง ลานจอดรถ ทุกภาคส่วนต้องฝึกซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มประสิทธิภาพทักษะความสามารถการตรวจค้นของพนักงานรักษาความปลอดภัย เพิ่มบุคลากรให้เพียงพอและครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบอย่างเหมาะสม 

ทั้งนี้ได้ประชาสัมพันธ์มาตรการ “หนี ซ่อน สู้” ของตำรวจภูธรจังหวัดเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ให้ประชาชนได้รับทราบและมีแนวทางเฝ้าระวังและมีทักษะ เอาตัวรอดเมื่ออยู่ในสถานการณ์ แนะนำให้พิจารณาเพิ่มเติมหน่วยรักษาความปลอดภัยเคลื่อนที่เร็วป้องปรามมิให้เกิดการก่อเหตุความไม่สงบ รวมทั้งเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพกล้อง CCTV สัญญาณเตือนภัย แจ้งสถานการณ์ที่ไม่ปกติ กริ่งเตือนที่มีความชัดเจน สำหรับการเผชิญเหตุสถานประกอบการต้องมีอุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ ให้พร้อมทุกจุดสำคัญ เช่นถังดับเพลิง และอุปกรณ์ช่วยชีวิต การจัดพื้นที่ปลอดภัยเพื่อหลบภัย รวมทั้งเส้นทางอพยพ การสำรองข้อมูลและเข้าถึงใช้พิมพ์เขียวเพื่อตรวจสอบโครงสร้างของสถานที่เกิดเหตุ ช่องทางการติดต่อสื่อสารเพื่อประสานงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อบูรณาการร่วมกันระงับเหตุและคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน