สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความคืบหน้าเหตุพายุไต้ฝุ่น “โคอินุ” พัดถล่มไต้หวัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จนส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

ล่าสุด สำนังานอุตุนิยมวิทยากลางของไต้หวัน เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่น “โคอินุ” ที่พัดถล่มพื้นที่แหลมเอ๋อหลวนปี๋ ทางตอนใต้ของไต้หวัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน รวมยังเป็นความรุนแรงหนักเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยขนาดความเร็วลม 342.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งความเร็วลมดังกล่าว ยังทำให้อุปกรณ์เครื่องวัดความแรงลมประจำสถานีไถหักได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นหักพังลงมา

ขณะที่ ความเสียหายจากพายุลูกดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย เพราะถูกเศษกระจกปลิวใส่ที่เมืองไท่จง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 304 ราย อาคารและสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ อาคารที่พักอาศัยของประชาชน ตลอดจนที่ทำการธุรกิจกว่า 62,000 แห่ง ต้องอยู่ในสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้

รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุพายุไต้ฝุ่น “โคอินุ” ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “ลูกสุนัข” ได้ก่อให้เกิดคลื่นทะเลซัดฝั่งด้วยขนาดความสูงถึง 7 เมตร พร้อมกับทำให้ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งภายหลังจากพัดถล่มไต้หวัน ก็ได้มุ่งหน้าไปทางทะเลจีนใต้ ก่อนเคลื่อนตัวไปยังเกาะฮ่องกง รวมถึงมณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนต่อไป