เมื่อวันที่ 6 ต.ค.66 นายวัน อยู่บำรุง โพสต์ข้อความระบุว่า....

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล!

กรณีคลาสสิคในใจแอดมาจากวรรณกรรมสามก๊กตอนใกล้จบ

“เตงงาย” หรือที่จีนกลางเรียก “เติ้งอ้าย” 邓艾 ขุนพลผู้เด็ดเดี่ยวของวุยก๊ก

ได้รับคำสั่งให้ยกทัพไปเผด็จศึก “จ๊กก๊ก” พร้อมกับ “จงโฉย”

เตงงายมีหัวใจนักสู้และเสียสละ นำมวลทหารนับพัน ตะลุยผ่านป่าทึบ ลัดเลาะไปตามแนวเขาที่สูงชัน

ทหารหลายนายผลัดตกเหว หลายนายบาดเจ็บ จากการเดินทัพเลียดหน้าผา

ใครเคยดู “สามก๊ก 1994” น่าจะมีคนคิดในใจเหมือนแอดว่า หมอนี่มันเท่ชะมัด!

สุดท้ายด้วยความว่องไว เก่งกาจ และเด็ดขาด

ทำให้ “เตงงาย” สามารถพิชิตจ๊กก๊ก ยึด “เสฉวน” ได้เป็นคนแรก

เวลานั้นจ๊กก๊ก “ขงเบ้ง” ตายไปนานแล้ว

“พระเจ้าเล่าเสี้ยน” ลุ่มหลงในสุรานารี

“เกียงอุย” ศิษย์รักของขงเบ้ง แบกอาณาจักรไม่ไหวจริง ๆ

กลับมาที่ “เตงงาย” แทนที่จะได้ความดีความชอบ ได้ปูนบำเหน็จหรือครองเมืองก็ว่ากันไป แต่...

เขากลับถูกระแวงจากฝ่ายวุยก๊กพวกเดียวกันเอง ว่าคิดจะตั้งตนเป็นใหญ่

การยุแยงภายในทำให้ “สุมาเจียว” ลูกชาย “สุมาอี้” ซึ่งมีอำนาจมากเชื่อสนิท

ว่าขุนพลพร้อมกับลูกน้องที่กำลังฮึกเหิม จากการปราบจ๊กก๊ก อาจคิดเป็นกบฏ

สุมาเจียวจึงได้ออกคำสั่งด่วนให้ “กำจัด” เสี้ยนหนาม อย่าให้มาตำใจในภายภาคหน้า

เสร็จนาแล้ว โคถึกก็หมดความสำคัญ!

อย่าให้มันได้มีโอกาสหันเขาแหลม ๆ มาทิ่มแทงเราได้

“จงโฮย” ซึ่งถ้าพูดในยุคปัจจุบันก็คือเคยเป็นเพื่อนร่วมงาน ร่วมกับ “อุยก๋วน” จับตัวเตงงายส่งกลับไปเมืองหลวง

ดูท่าน่าจะติดคุกยาว ๆ แบบขังลืม

แต่ที่ไหนได้ ความระแวงของผู้มีอำนาจที่มีต่อขุนพลจอมปีนเขาหนักหนากว่านั้น

คำสั่งจากสุมาเจียวลงมาชัดเจนให้กำจัด

ระหว่างทาง “เตงงาย” และลูกชาย ก็ถูกสังหาร

ปิดตำนานผู้พิชิตจ๊กก๊กด้วยประการละฉะนี้