นักธุรกิจของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงให้โอกาสรัฐบาลทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้  ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวแต่เพียงอย่างเดียว      

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 นายธวัชชัย  น้าทิพากร ผู้บริหารเฟิร์นริมธาร รีสอร์ท  จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า  คงต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่  ได้ทำหน้าที่ไปก่อน เพราะยังคงมีความหวังว่ารัฐบาลนี้จะมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจหลายเรื่องที่น่าสนใจ   น่าจะช่วยทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราต้องยอมรับความจริงเรื่องเศรษฐกิจประเทศไทยค่อยข้างจะมีปัญหา เนื่องจากเราเจอปัญาโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจชงัก เราตั้งความหวังรัฐบาลได้ลงมือทำเต็มที่ เรื่องงบประมาณแผ่นดินที่จะออกมาจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปได้

โดยเฉพาะแนวนโยบายในช่วงหาเสียงที่ผ่านมาของรัฐบาลปัจจุบันมีมากมายหลายนโยบาย  การท่องเที่ยวจะเป็นนโยบายที่รัฐบาลควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  เพราะเราต้องการเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิดเป็นระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าถ้าหากการท่องเที่ยวสามารถฟื้นฟูได้เราก็สามารถชักชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ประเทศไทยเราก็จะสามารถขับเคลื่อนไปได้ 

ต่อข้อถามถึงการที่นักท่องเที่ยวจะให้ความสนใจประเทศไทย นายธวัชชัย ฯให้ความคิดเห็นว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มตลาดคนจีน เป็นกลุ่มที่เราคาดหวัง เพราะเป็นกลุ่มที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ถ้าเรามีการดูแลให้ดี การเดินทางผ่านการเข้าออกประเทศ รัฐบาลควรจะอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องวีซ่าในการเข้าประเทศ เมื่อเข้ามาแล้วจะต้องดูแลให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย ให้มีความสุข  ก็น่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจบ้านเราดีขึ้น

นายธวัชชัย  น้าทิพากร ผู้บริหารเฟิร์นริมธาร รีสอร์ท  จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า ระบบเงินดิจิตอลจะทำให้มีการกระจายรายได้ภายในประเทศหรือไม่นั้น ต้องคอยดูวิธีการ รายละเอียดก่อนว่ารัฐบาลจะมีวิธีการทำอย่างไร เพราะเรื่องเงินดิจิตอล ตามนโยบายที่พูดกันมาก็ยังไม่มีความชัดเจน แม้กระทั่งแหล่งเงิน หรือแนวทางในการใช้จ่าย จะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างไร หากกำหนดพื้นที่ 4 กิโลเมตร ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนก็คงจะลำบาก เพราะมีแต่ป่าเขา หากมีนโยบายปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพการใช้จ่าย ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยขับเคลื่อนการหมุนเวียนเศรษฐกิจดีขึ้นได้         

สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ได้รับผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจเช่นกันจะให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลอย่างไร นายธวัชชัย ฯ กล่าวว่า    จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเผชิญกับปัญหาโควิด 19 สถานประกอบการต่าง ๆ แทบจะอยู่ไม่ได้ เศรษฐกิจแม่ฮ่องสอน เราอยู่ได้กับการท่องเที่ยว ปัจจุบันกำลังฟื้นตัว เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว แต่แม่ฮ่องสอนก็ยังมีปัญหา เรามีสนามบิน แต่ก็ไม่มีเครื่องบินมาบิน แม้จะเริ่มมีบางกอกแอร์เวย์มาบินจาก กรุงเทพ  ลำปาง แม่ฮ่องสอน แต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์การท่องเที่ยวของแม่อ่องสอนได้จริง ๆ  เพราะการเชื่อมโยงเชียงใหม่แม่ฮ่องสอน ยังจะเป็นเส้นทางสำคัญที่ทำให้แม่ฮ่องสอนสามารถฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวได้ดี ตนเชื่อว่า  ตอนนี้เราคงต้องพยายามขับเคลื่อนให้มีการเดินทาง ไปกลับ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพิ่มขึ้น ก็จะเป็นโอกาสของจังหวัดแม่ฮ่องสอน พูดง่าย ๆ คือ การเดินทางทางอากาศ  ควรจะเป็นเที่ยวบินเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หรือกรุงเทพ แม่ฮ่องสอน            

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ยังอยู่ในภาพที่ยังขาดความพร้อมเพราะประสบปัญหาเรื่องเม็ดเงินในช่วงโควิดที่ผ่านมา แม้กระทั่งการกลับมาเปิดกิจการก็ต้องใช้เงินที่จะต้องมาปรับปรุงกิจการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว เพราะปัญหาหนี้สินของผู้ประกอบการที่ยังคงค้างคาอยู่เดิม หากไม่มีการแก้ไขหรือช่วยเหลือเรื่องหนี้สินผู้ประกอบการ ผมว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวก็ไม่สามารถที่ฟื้นตัวได้ เพราะเป็นปัญหาซึ่งผู้ประกอบการก็ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด ถ้ารัฐบาลสามารถสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถกลับมามีภาวะการลงทุนที่เหมาะสม หาเม็ดเงินมาลงทุนต่อ ก็จะทำให้การเที่ยวดีขึ้น