ความคืบหน้าเหตุคนร้ายแต่งกายชุดพนักงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สวมหมวกแก๊ปและหน้ากากอนามัยอำพรางใบหน้าบุกเดี่ยวชิงสร้อยทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่ห้างทองแสงมณี ทองเยาวราช สี่แยกวัดบึง พระอารามหลวง ถ.จอมพล เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ต่อมา พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา พร้อมกำลังได้สืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีซึ่งได้พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เริ่มจากจุดที่คนร้ายจอดรถจักรยานยนต์ริมกำแพงวัดแล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าทางแยกหัวทะเล เลี้ยวซ้ายไปทางหลวงหมายเลข 226 ถ.เพชรมาตุคลา รวมทั้งเบาะแสจากพยานแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ต.ค. พ.ต.อ.ประสิทธิ์ พร้อม พ.ต.ท.กิตติภพ ภาสะวณิช รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.สามารถ วงศ์ประทุมมาลย์ สว.สส.สภ.เมือง ,ร.ต.อ.อภิรักษ์ มากสูงเนิน รอง สว.สส.สภ.เมือง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.เมือง นครราชสีมา ได้ควบคุมตัวนายวันเฉลิม อายุ 38 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา คนร้ายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อประกอบสำนวนแจ้งข้อกล่าวหาตามกระบวนการ นายวันเฉลิม ได้ยกมือไหว้ขอโทษพนักงานร้านที่ถูกข่มขู่ พร้อมเปิดใบหน้ายืนยันกับผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุนายวันเฉลิม อ้างประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและหารายได้จากการเล่นพนันออนไลน์ ปั่นบาคาร่าและอื่นๆ จนเสียหมดตัวไม่สามารถหาเงินมาจ่ายงวดรถจักรยานยนต์ ค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
นอกจากนี้หลังก่อเหตุชิงทองได้ขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นรถที่ได้มาใช้ไม่ถูกต้อง ได้จอดทิ้งพร้อมถอดเสื้อผ้าที่เป็นชุดพนักงานของโรงงานซึ่งไม่เคยทำงานแต่อย่างใด ได้โยนทิ้งไปในป่าละเมาะ เขต ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ติดตาม จากนั้นได้โทรศัพท์ติดต่อให้เพื่อนมารับกลับบ้านเช่า ส่วนสร้อยทองรูปพรรณหนัก 1 บาท ยังเก็บซ่อนไว้อยู่กับตัวเอง ยังไม่ได้นำไปขายแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ตามและนำของกลางมาคืนให้กับทางร้านได้ครบถ้วน
ทั้งนี้ที่ได้มีเหตุที่ห้างทองดังกล่าว เมื่อช่วงเย็น วันที่ 27 กรกฎาคม 65 คนร้ายอายุ 24 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาชายชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังโคราช ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่พนักงานของห้างทองให้หยิบสร้อยคอทองคำใส่ถุงดำ ได้สร้อยคอทองคำ 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท รวมน้ำหนัก 5 บาท มูลค่ากว่า 150,000 บาท วิ่งออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลา 7 วัน แกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนสามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง โดยให้การรับสารภาพอ้างต้องการนำเงินมาเป็นทุนในการปลูกกัญชาขาย ขณะก่อเหตุได้แกล้งเดินขาเป๋เพื่อตบตาให้เข้าใจผิดเป็นคนพิการ