ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566  นายวีรพล โพธิ์สีทอง ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแจ้งเหตุจากลูกบ้าน ว่ามีตลิ่งริมถนนพังเสียหาย รถจักรยานยนต์ จมหายไปกว่า 10  คัน นอกจากนี้ยังมีบ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจของป้อมตำรวจหมู่บ้านโดนน้ำกัดเซาะจมหายเสียหายไปกว่าครึ่งหลัง และยังมีถนนริมแม่น้ำทรุดตัวกว่า 50  เมตร หลังจากได้รับแจ้งได้ประสานงานไปยังฝ่ายปกครอง อ. แก่งคอย  องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ แขวงการทางสระบุรี การไฟฟ้า จ.สระบุรี  และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู สระบุรี และมูลนิธิป่อเต็กตึ้งสระบุรี เข้าทำการช่วยเหลือ ซึ่งที่เกิดเหตอยู่บริเวณริมถนนสุดบรรทัด (สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ต.ตาลเดี่ยว - ต. เตาปูน  ม.2 ต.ตาลเดี่ยว  อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 

สืบเนื่องจากวันนี้มีฝนตกในพื้นที่ จ.สระบุรีเป็นบริเวณกว้าง ทำให้มวลน้ำในแม่น้ำป่าสักมีปริมาณมาก และสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวมีกำลังแรง และเร็วได้กัดเซาะผนังดินริมตลิ่งพังยาวกว่า 100 เมตรและทรุดลงมา ลึกราว 50 เมตร  ซึ่งเห็นได้ชัด ได้ไหลผ่านแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งของแม่น้ำ  เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่า ริมตลิ่งทรุดเป็นทางยาว 100 เมตร ทรุดตัวลงลึกว่า  50  เมตร พบบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจป้อมหมู่บ้านพังไปครึ่งหลัง  รถจักรยานยนต์ กว่า 10 คัน (ซึ่งจอดอยู่เป็นของพนักงานที่ทำงานเข้ากะของโรงงานในย่านนั้นมาจอดไว้ )  นอกจากนี้ยังมีเสาวิทยุ ของป้อมตำรวจหมู่บ้านล้มพังเสียหาย และถนนริมตลิ่งเกิดอาการทรุดตัวพังเสียหายกว่า 50  เมตร  จากนั้นเจ้าหน้าทีกู้ภัยฯได้นำรถจักรยายนต์2 คันที่ยังไม่ร่วงหล่นไปในแม่น้ำป่าสัก เอาขึ้นมาได้จำนวน 2  คัน (โดยไม่ทราบว่าเป็นของใครมาจอดไว้คาดว่าน่าจะเป็นพนักงานที่ทำงานกะมาจอดที่ไว้  ) ส่วนที่เหลือ คาดว่าน่าจะจมไปในแม่น้ำป่าสักเรียบร้อยแล้ว 

ด้านนายประสิทธิ์ นนทรักษ์ ชาวบ้านที่ขับรถจักรยานยนต์ มาประสพเหตุ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์ ผ่านมาเพื่อจะไปตลาด พอดีเหลือบไปเห็นว่าตลิ่งกำลังทรุดตัวจึงจอดรถ วิ่งไปดูพบว่า มีรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดไว้รวม 10 คันกำลังไหลลงแม่น้ำป่าสัก ตนเองจึงได้เข้าไปดึงไว้ ปรากฏว่า ดึงไว้ได้ 1 คัน จากนั้นก็เห็นบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้ ๆกันพังลงไปกว่าครึ่งหลัง แต่ขณะเกิดเหตุไม่เห็นมีคนอยู่ 

ขณะที่ นายวีรพล โพธิ์สีทอง  ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแจ้งเหตุจากลูกบ้าน ว่ามีตลิ่งริมถนนพังเสียหาย รถจักรยานยนต์ จมหายไปกว่า 10  คัน นอกจากนี้ยังมีบ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจของป้อมตำรวจหมู่บ้านโดนน้ำกัดเซาะจมหายเสียหายไปกว่าครึ่งหลัง และยังมีถนนริมแม่น้ำทรุดตัวกว่า 50  เมตร หลังจากได้รับแจ้งได้ประสานงานไปยังฝ่ายปกครอง อ. แก่งคอย  องค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยวซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ให้ทราบ

ส่วนนายมงคล สุขศิลา นายกองค์การบริหารตำบลตาลเดี่ยว กล่าวว่า ตนเองได้รับรายงานก็รีบประสานงาน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แขวงการทางสระบุรี ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ ทำการตรวจสอบ และช่วยเหลือ ทราบสาเหตุ เนื่องจาก ฝนตกสะสมมาหลายวันและวันนี้ตกทั้งวัน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่ป่าสักที่ไหลผ่านบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งริมตลิ่งโดนกัดเซาะ ทำให้เกิดความเสียหายดังที่เห็น ทางด้าน อบต. ไม่นิ่งนอนใจ ได้ปิดพื้นที่บริเวณนี้แล้ว และได้นำเจ้าหน้าที่มาเฝ้าระวังตลอดเวลาเผื่อเกิดเหตุซ้ำอีก ถ้ามีเหตุอะไร ทางเราได้ทำการเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยช่วยเหลือตลอดเวลา