วันที่ 4 ต.ค.2566 เวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก กล่าวถึงความคืบหน้าการหาเข้าสังกัดพรรคการเมืองว่า ในสัปดาห์นี้ตนจะเดินสายหารือกับพรรคการเมือง แต่ยอมรับว่าการทำงานในพรรคการเมืองใหม่ตนต้องการทำประโยชน์ให้กับพรรคใหม่ ต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งการพูดคุยคงไม่คุยกันเพียงสั้นๆ ยอมรับว่าจะพูดคุยกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาฯ 2 พรรค และยังมีพรรคการเมืองนอกสภาฯ ด้วย ซึ่งตนขอเวลาพูดคุยและคาดว่าจะได้รับคำตอบไม่เกิน 15 ต.ค. นี้ หากการเดินหน้าพบปะเป็นไปได้ด้วยดี

"ตอนนี้มีพรรคให้เลือกเยอะ แต่พรรครัฐบาลไม่ต้องติดต่อมา เพราะเสียเวลา"นายปดิพัทธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงความชัดเจนของแกนนำก้าวไกลที่ทำหน้าที่เป็นข้าราชการการเมืองและคณะทำงาน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ  รองหัวหน้าพรรค ได้ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของตน เมื่อ 3 ต.ค. ขณะที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล ได้แจ้งลาออกด้วยวาจาแล้ว และหลังจากกลับจากต่างประเทศจะดำเนินการตามธุรการต่อไป สำหรับสมาชิกพรรคก้าวไกลหรือ ผู้ที่เกี่ยวกับอนาคตใหม่ ที่ไม่มีบทบาทใดในพรรค ตามกฎหมายสามารถทำหน้าที่เป็นคณะทำงานของตนได้ แต่ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ทีมงานของตนนั้นมีทั้งเป็นบุคคลภายนอก และหลายพรรค ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวตนพร้อมทำอย่างโปร่งใส และเปิดเผย แต่ขอเวลาดำเนินการก่อน


เมื่อถามถึงกรณีที่ถูกยื่นองค์กรอิสระให้ตรวจสอบจริยธรรม กรณีที่ถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนแสดงวิสัยทัศน์ต่อสภาฯ ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง คือ ต้องฟื้นฟูองค์กรนิติบัญญัติ ไม่อยู่ใต้อาณัติของรัฐบาลหรือตุลาการ และ 3 อำนาจอธิปไตยต้องถ่วงดุล เป็นอิสระต่อกัน ดังนั้นนิติบัญญัติควรจัดการภายในองค์กกรได้ หากต้องพึ่งพาองค์กรที่เต็มไปด้วยคำถาม ถึงความเป็นกลางทางการเมืองโดยเฉพาะองค์กรอิสระที่มาจากการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  เป็นประเด็นสังคมที่ต้องถามในบทบาทและท่าทีของฝ่ายการเมือง