ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกหาดใหญ่ วอนขอให้รัฐปลดล๊อค นกปรอดหัวโขน ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจของคนรากหญ้าภาคใต้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสนามแข่งนก ในพื้นที่ ซอย 7 ชุมชนสถานี 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งในวันธรรมดาที่ไม่มีการแข่งขันประชันเสียงนกกรงหัวจุก เจ้าของนกแต่ละรายก็จะมารวมตัวกัน นั่งจิบน้ำชาเป็นเสมือนสภากาแฟ พร้อมนำนกกรงหัวจุก มาแขวนไว้เพื่อสร้างความคุ้นเคย และถือเป็นการซ้อมส่งเสียงร้องให้กับนก ก่อนจะเข้าประชันเสียงในวันแข่งขันจริง โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคิดเห็นของผู้เลี้ยงนกฯ ถึงประเด็นการปลดนกปรอดหัวโขน หรือที่คนใต้เรียกว่า นกกรงหัวจุก ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงในวงการคนเลี้ยงนก กลุ่มคนอนุรักษ์รวมถึงนักวิชาการอยู่ในสังคมขณะนี้
ด้านผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ บอกว่า อยากให้รัฐบาลช่วยปลดล็อคนกกรงหัวจุก เพราะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนรากหญ้า มีรายได้จากการเพาะเพาะเลี้ยง และจากการแข่งขัน โดยสามารถอัพจากราคาหลักร้อย ไปจนถึงหลักแสนบาทได้ รวมถึงยังส่งผลต่อกิจการที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งการขายอาหารนก กรงนก อุปกรณ์เสริมกรงนก หรือแม้กระทั่งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายผลไม้อย่างกล้วย มะละกอ ซึ่งเป็นอาหารให้กับนกด้วย
ส่วนประเด็นข้อกังกลที่ว่า การปลดล็อคจะทำให้มีการลักลอบล่านกในธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ผู้เลี้ยงนกฯ มองว่า ตอนนี้นกปรอดหัวโขนในป่าธรรมชาติของภาคใต้ ก็ลดน้อยลงมาก โดยเชื่อว่าไม่ได้เกิดจาการเข้าลักลอบจับ และยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่สามารถยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดได้ ซึ่งการเลี้ยงนกชนิดนี้ในปัจจุบันส่วนใหญ่ ก็เกิดจากการเพาะพันธุ์ของฟาร์ม มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงอยากให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาให้ถี่ถ้วน / ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงนกบางราย มองว่า หากไม่มีการปลดล็อค ก็ยังคงเลี้ยงต่อไป ถึงแม้กระบวนการขออนุญาตจะยุ่งยากไปบ้าง
สัมภาษณ์ นายดลเหลาะ โส๊ะหวัง / รองประธานชมรมนกกรงหัวจุก อ.หาดใหญ่นายเปี่ยมศักดิ์ พรหมมณี / เจ้าของเปี่ยมศักดิ์ฟาร์มหาดใหญ่
ด้านนางเสาวลักษณ์ สินธนากิตติ เจ้าของร้านคนรักนก ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกรงนก อาหารนก และอุปกรณ์เลี้ยงนก ย่านถนนนวลแก้วอุทิศ อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า ร้านตนเองมีอุปกรณ์เกี่ยวกับนกจำหน่ายแบบครบครัน มีกรงนกหลักร้อยจนถึงหลักหมื่น แต่ตอนนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจ จึงทำให้มียอดขายน้อย ซึ่งหากมีการปลดนกกรงหัวจุกออกจากสัตว์สงวน จะทำให้มีการเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ยอดขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ไม่ต้องไปกังวลว่านกจะสูญพันธ์ เชื่อว่าคนเลี้ยงนก ก็รักนกกันทั้งนั้น