ไทยวิวัฒน์ประกันภัยบริษัทรับประกันรถบีเอ็มดับบลิวเน็ตไอดอลปิดปากเงียบ อ้างรอผลทางคดีสรุปออกมาเสียก่อน จึงตอบได้ โผล่แล้ว 6 คันมีทำประกันรถทั้งประเภทชั้นหนึ่งและชั้นสามไว้ ส่วนอีก 3 ยังไม่พบข้อมูลทำประกัน จากกรณี น.ส.กฤตรฎ ทับทิมผล หรือโซมี่ หรือน้ำส้ม โซมี เน็ตไอดอล และพริตตี้สาว ขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน กบ 42 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถคันอื่นรวม 9 คันบริเวณหน้าห้างเอสพลานาด รัชดาฯเมื่อวันที่ 1 พ.ย.59ที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบล่าสุดปรากฎว่า รถบีเอ็มคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยประเภทหนึ่งไว้กับบริษัทไทยวิวัฒน์ประกันภัย จำกัด(มหาชน) ส่วนในบรรดารถที่ถูกชนทั้ง 9 คันเท่าที่ตรวจสอบพบว่า ขณะนี้รถที่เสียหายต่างๆที่มีประกันภัยต่างก็แจ้งเคลมและทยอยนำรถเข้าซ่อมกับอู่ในเครือและนอกเครือบริษัทประกันภัยกันแล้ว โดยรถคันที่มีประกันได้แก่ รถเก๋งฮอนด้า Mobilio 1 คัน และอีก1คันเป็นรถนิสสัน Almera ได้ทำประกันภัยรถยนต์ประเภทหนึ่งไว้กับบริษัทเมืองไทยประกันภัย ซึ่งทั้งสองคันดังกล่าวเสียหายเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีรถฮอนด้า FREED ทำประกันประเภทหนึ่งไว้กับสินทรัพย์ประกันภัย และรถตู้หนึ่งมีประกันประเภทหนึ่งไว้กับบริษัททิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) ส่วนรถแท็กซี่ที่เสียหาย 2 คัน มีประกันภัยชั้น 3 ไว้กับเจ้าพระยาประกันภัย 1 คัน ขณะที่อีกคันอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีประกันไว้กับบริษัทใดแน่ เพราะตามสติกเกอร์ที่ติดไว้เดิมเป็นบริษัทกมลประกันภัย แต่ได้สอบถามไปทางผู้บริหารของบริษัทสัจจะประกันภัย (กมลประกันภัยเดิม)แล้วปรากฎว่า ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีพอร์ตงานรถแท็กซี่ที่ทำประกันไว้แล้ว ยกเว้นเหลืออยู่เพียงคันเดียว ซึ่งกำลังจะหมดหรือครบอายุกรมธรรม์ในเร็ววันนี้ ส่วนรถเสียหายที่เหลืออีก 3 คันตรวจสอบแล้วยังไม่พบว่าได้ทำประกันไว้กับบริษัทใด โดยหนึ่งในรถแท็กซี่ที่เสียหายหนักสุดนั้นประมาณการณ์ค่าซ่อมในสายตาของพนักงานเคลมสินไหมบริษัทประกันภัยรายหนึ่งที่ได้เห็นจากสภาพรถแล้วคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3 แสนบาท ส่วนรถตู้ที่เสียหายน่าจะเสียหายอยู่ราวๆ 7-8 หมื่นบาท อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์สอบถามไปยังผู้จัดการหรือผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมของบริษัทไทยวิวัฒน์ประกันภัยเพื่อสอบถามถึงเงื่อนไขและวงเงินความคุ้มครองทรัพย์สินคู่กรณีและบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะต้องรับผิดชอบต่อรถคู่กรณีที่เสียหายทั้ง 9 คัน แต่ได้รับการปฎิเสธที่จะตอบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว จนท้ายสุดได้โอนสายให้กับฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า ไม่สามารถตอบรายละเอียดใดๆได้ ต้องรอผลทางคดีออกมาเสียก่อน เพราะมันเป็นเรื่องของคดี ด้าน แหล่งข่าวจากวงการประกันภัย กล่าวว่า ทั้งนี้เข้าใจว่าทางบริษัทประกันฯคงรอผลทางคดีสรุปออกมาชี้ชัดให้แน่นอนเสียก่อน เนื่องจากมีข่าวออกมาต่างๆนานา ซึ่งก็มีผลต่อเงื่อนไขความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่า หากผลสรุปออกมาว่า ทางบริษัทไทยวิวัฒน์ประกันภัยต้องดูแลรับผิดชอบให้ ความคุ้มครองรถคู่กรณีที่เสียหาย ทางบริษัทไทยวิวัฒน์ฯอาจจะไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมให้กับรถบางคันที่ได้ทำประกันชั้นหนึ่งไว้ เนื่องจากว่ามีสัญญาน้อคฟอร์น้อค หรือสัญญาสละสิทธิ์ไม่เรียกร้อกค่าสินไหมระหว่างกันไว้อยู่แล้ว ดังนั้นต่างคนต่างซ่อมรถลูกค้าเอง จึงไม่น่าจะมีปัญหา ยกเว้นแต่รถคันที่ไม่มีประกัน และรถแท็กซี่ที่มีประกันภัยชั้น 2 หรือชั้น 3 เท่านั้นที่ไทยวิวัฒน์ประกันภัยต้องดูแลรับผิดชอบ แต่ทว่า หากค่าซ่อมแซ่มหรือค่ารักษาพยาบาลในกรณีรถคันที่เสียหายและไม่มีประกัน หรือรถแท็กซี่อีก 2 คันที่ทำประกันภัยชั้น 2 หรือชั้น 3 สูงเกินกว่าที่บริษัทไทยวิวัฒน์ประกันภัยระบุไว้ในเงื่อนไขความคุ้มครอง เจ้าของรถหรือบริษัทประกันก็คงจะต้องมาไล่เบี้ยเก็บค่าซ่อม หรือค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เกินเอากับผู้ละเมิดก็คือเจ้าของรถบีเอ็มดับบลิวนั่นเอง