ระทมหนัก! "ปภ." เผยเกิดอุทกภัยแล้ว 28 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,423 ครัวเรือน "สุโขทัย" อ่างเก็บน้ำหลักวิกฤต น้ำล้นสปิลเวย์ "นายกฯ" รับสถานการณ์น้ำท่วมน่าห่วงที่สุโขทัย จ่อลงพื้นที่"อุบลฯ" 6 ต.ค.นี้ "อุตุนิยมวิทยาเผย "โคอินุ" ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น ไม่กระทบไทย
ที่อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจ.สุโขทัย จะลงพื้นที่ไปติดตามด้วยตัวเองหรือไม่ ว่า ต้องดูอีกทีหนึ่ง จะพิจารณาตามความจำเป็น และในวันศุกร์ที่ 6 ต.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปจ.อุบลราชธานี เพื่อประชุมเตรียมการรับมือสถานกาณ์น้ำ ไม่ต้องห่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ตอนนี้ น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะวันนี้ที่จ.สุโขทัย ยังจะมวลน้ำเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วง 16.00 น. ซึ่งตนก็ได้คุยกับนายสมศักดิ์เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำ พร้อมยอมรับว่าเรื่องน้ำท่วมตนเป็นห่วงฉะนั้น จะมีการไปคุยกับผู้บริหารกรมชลประทานบ่ายนี้ด้วยที่กระทรวงการคลัง ซึ่งคงจะมีข้อมูลมากขึ้น เมื่อถามว่า การที่ให้รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ มีอะไรเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกเรื่องเลย ทั้งการบูรณาการทำงาน ถนน พืชผลทางการเกษตร รวมถึงความเดือดร้อนประชาชน
ขณะเดียวกัน โครงการชลประทานสุโขทัย รายงานสถานการณ์น้ำ ที่อ่างเก็บน้ำแม่มอก อ.เทิน จ.ลำปาง ความจุ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มีน้ำอยู่ 119.380 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 108.53 ของความจุทั้งหมด น้ำใช้การได้ 103.480 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 109.97 เกินปริมาตรกักเก็บ มีน้ำล้นสปิลเวย์ระบายไหลลงพื้นที่ท้ายน้ำ 14.307 ล้าน ลบ.ม. และเริ่มส่งผลกระทบในบางจุด ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สุโขทัย 2 วันที่ผ่านมา ฝนไม่ตก แต่ผลกระทบจากฝนที่ตกก่อนหน้านี้ รวมกับน้ำจากแม่น้ำยม และน้ำป่าจากทางทิศตะวันตก
วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระหว่างวันที่ 26 ก.ย.- 2 ต.ค.66 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 28 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 322 ตำบล 1,365 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,423 ครัวเรือน โดยภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยังคงมีที่ จ.กาฬสินธุ์และอุบลราชธานี ที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุโซนร้อน "โคอินุ" ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือไปทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน และเคลื่อนตัวตามแนวขอบชายฝั่งทางด้านตะวันออกของจีน ไปทางเกาะฮ่องกงและเกาะไหหลำ คาดว่าจะอ่อนกำลังก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย โดยไม่มีผลกระทบกับไทยโดยตรง