"นายกฯ " เดินหน้าแก้รธน. พร้อมจัดทำประชามติเร่งยกร่างฯ ให้เสร็จเร็วที่สุด "อดิศร" เผยชงวิปรบ.ยื่นญัตติด่วนอภิปรายปมขับ "ปดิพัทธ์" หลังพบไม่เป็นไปตามข้อบังคับ"ก้าวไกล" ชี้ไม่สง่างาม ดักคอห้ามช่วยแจง ด้าน"ธรรมนัส" ไม่รู้ "นฤมล" ลาออก"พลังประชารัฐ" ยันไม่มีปัญหาภายในพรรค
ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีคณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ก็ได้เดินหน้าตั้งคณะกรรมการเพื่อเริ่มดำเนินการแล้วโดยจะดำเนินการทำประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน
ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ วิปรัฐบาลเตรียมเสนอญัตติด่วนกรณีความเหมาะสมต่อในการดำรงตำแหน่งของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งมติของพรรคก้าวไกลขับพ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากตนและนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมาย พบว่าในกรณีที่พรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์นั้นไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคก้าวไกล ข้อ 64(5) ที่ระบุเหตุของการขับสมาชิกให้พ้นพรรคคือ ผิดวินัย ผิดจรรยาบรรณ หรือเหตุอื่นที่ร้ายแรง ซึ่งกรณีของญัตติด่วนนั้นไม่มีเจตนาร้ายส่วนตัว เพราะตนเป็นคนที่เลือกนายปดิพัทธ์ที่เคยอยู่กับพรรคก้าวไกลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ส่วนผลของการเสนอญัตติด่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการอภิปรายของที่ประชุม อีกทั้งตนจะเสนอในที่ประชุมวิปรัฐบาลด้วยเช่นกันว่าจะให้เป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวจะถือว่าใช้เวทีสภาแทรกแซงกิจการของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องภายในของพรรคก้าวไกล เพราะข้อบังคับพรรคการเมืองนั้นเผยแพร่โดยทั่วไป และกรณีดังกล่าวไม่ใช่ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แต่เป็นประเด็นของความสง่างามในการปฏิบัติหน้าที่ของรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งที่ถูกพรรคต้นสังกัดขับออกจากสมาชิกพรรค
"ที่อ้างว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผมมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะการขับสมาชิกพรรคไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่ระบุไว้ใน 3 ข้อ ที่อ้างว่านายปดิพัทธ์ขัดมติพรรคเพราะต้องการนั่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง คนแยกแยะได้ว่าคือการละคร คือหมอลำ ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนตอนที่ขับส.ส.ที่เป็นงูเห่า ทั้งนี้คนที่ถูกพรรคขับออก ถือว่าถูกประหารทางการเมือง และการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เคารพได้ยาก" นายอดิศร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีหลักฐานการเจรจาหรือสนทนาระหว่างนายปดิพัทธ์กับแกนนำก้าวไกลใช่หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ข้อบังคับของพรรคการเมืองระบุไว้ถึงเหตุผลที่จะขับสมาชิกออกจากพรรคการเมือง ซึ่งรายละเอียดที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนมองออกว่าไม่มีเจตนาขับออกจริง ซึ่งนายปดิพัทธ์ต้องชี้แจง และในการอภิปรายญัตติด่วนที่เตรียมเสนอนั้น ตนขอพรรคก้าวไกลอย่าชี้แจงช่วยเหลือนายปดิพัทธ์เพราะถือว่าไม่ใช่คนของพรรคก้าวไกลแล้ว
วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นเอาผิดพรรคก้าวไกล และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กรณีที่ประชุมร่วมพรรคก้าวไกลมีมติขับนายปดิพัทธ์ ออกจากสมาชิกภาพเพื่อให้สมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ อันไม่เป็นไปตามนัยทางกฎหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ สส.พรรคก้าวไกล มีมติเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ให้ นายปดิพัทธ์ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้ต่อไป และหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยให้เหตุผลในแถลงการณ์ที่แพร่หลายในโซเชียลมีเดียว่า เพื่อให้พรรคก้าวไกลสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ได้ พร้อมกับโพสต์รูปภาพและข้อความว่า แยกกันเดิน เปลี่ยนประเทศด้วยกัน
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า กรณีเยี่ยงนี้ถูกสังคมและโซเชียลตำหนิอย่างรุนแรงว่า เป็นก้าวไกลการละคร นิติกรรมอำพราง เสพติดอำนาจ แผนสมคบคิดกัน หรือเล่ห์ฉล หรือเป็นกลฉ้อฉลทางกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการแสดงออกให้เห็นธาตุแท้ของพรรคการเมืองที่มิได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ตรงไปตรงมา ตามที่พรรคก้าวไกลได้เคยประกาศ หรือหาเสียงไว้กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ตั้งพรรคการเมืองดังกล่าวขึ้นมา
นอกจากนี้ พฤติการณ์ หรือการกระทำอาจขัดหรือแย้งต่ออุดมการณ์ของพรรคที่จดทะเบียนไว้กับนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 แต่กลับใช้วิธีการเยี่ยงนักการเมืองน้ำเน่า ที่มุ่งกอดรัดอำนาจหรือตำแหน่งที่ตนมีหรือที่จะมีไว้อย่างไม่ละอาย และความผิดถึงขั้นขับสมาชิกออกจากพรรคนั้นไม่สอดคล้องกับข้อบังคับของพรรคก้าวไกล ข้อ 119 ประกอบข้อ 121 แต่อย่างใด
อีกทั้งกรณีดังกล่าวยังถูกสังคมตำหนิ ติเตียน และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดกันโดยมิได้ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตำแหน่งอันเป็นข้อห้ามของมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตามมาตรา 219 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะไต่สวนและมีความเห็นได้โดยตรง
"ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมายื่นร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวน และมีความเห็นว่าการกระทำของพรรคก้าวไกล และหมออ๋อง เข้าข่ายกลฉ้อฉล หรือนิติกรรมอำพราง ถูกสังคมตำหนิอย่างแรง อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร หากเป็นการฝ่าฝืนขอให้วินิจฉัยส่งศาลฎีกาเพื่อพิพากษาลงโทษต่อไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว และยังลาออกจากสมาชิกพปชร.เช่นกัน โดยยื่นหนังสือลาออกถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล แจ้งเหตุผลการลาออกดังกล่าวว่า เนื่องจากได้รับผิดชอบหน้าที่ตามกฎหมายในตำแหน่งเหรัญญิกพรรคครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้ลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกพรรค ว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่รู้เลย พร้อมถามกลับว่า "นักข่าวรู้แล้วหรือ" เมื่อถามว่า มีปัญหาอะไรภายในพรรคหรือน้อยใจอะไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน ช่วงนี้ตนไม่ได้อยู่กรุงเทพฯเลย เดี๋ยวจะลองโทรหาดู
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเลือกตำแหน่งเหรัญญิกพรรคคนใหม่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เขามีรองเหรัญญิกอยู่แล้ว ก็ให้ทำหน้าที่ไป ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรภายในพรรคพรรคก็ต้องเดินหน้าต่อไป เมื่อถามอีกว่า นางนฤมลลาออกจากตำแหน่ง เป็นเพราะว่าน้อยใจที่ไม่ได้ตำแหน่งในรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่ได้คุยกันเลยในระยะหลัง