วันที่ 2 ต.ค.66 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุว่า...

ผู้ป่วยชายอายุ 86 ปี มีโรคประจำตัวหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว (AF) ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจถาวร ความดันโลหิตสูง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ววันที่ 16 สิงหาคม 2566

วันที่ 6 กันยายน 2566 มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตรวจแยงจมูกพบไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ได้ยา Oseltamivir (โอเซลทามิเวียร์) 75 มิลลิกรัม กินที่บ้าน เช้าเย็น 2 วันครึ่ง อาการไม่ดีขึ้น ยังมีไข้ ไอ เริ่มเหนื่อยเดินไม่ได้ และเท้าบวม 2 ข้าง จึงมารพ.วันที่ 9 กันยายน

ตรวจร่างกาย อุณหภูมิ 38.3 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำ 91% ฟังปอดมีเสียงกรอบแกรบที่ชายปอดทั้ง 2 ข้าง เท้าบวม 2 ข้าง เอกซเรย์ปอด หัวใจโต มีฝ้าขาว น้ำในเยื่อหุ้มปอดเล็กน้อยทั้ง 2 ข้าง(ดูรูป) ตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงพบประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายปกติ 70% ตรวจเลือดระดับของ hs-Troponin T 458 (ค่าปกติ 0-14) และ NT-proBNP 13,654 (ค่าปกติ 0-125) สูงบ่งชี้ว่าภาวะหัวใจล้มเหลว

วินิจฉัย เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุ A ทำให้ปอดและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวชนิดที่หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานปกติ (Heart failure with preserved EF, HFpEF)

การรักษาให้ออกซิเจนทางจมูก ให้ยาต้านไวรัสรักษาไข้หวัดใหญ่กินต่อจนครบ 5 วัน ให้ยาขับปัสสาวะ ยาขยายหลอดลมและยาปฏิชีวนะติดตามเอกซเรย์ปอดและคอมพิวเตอร์ปอดวันที่ 14 กันยายนเห็นมีฝ้าขาวกระจายในปอดมากขึ้นและมีน้ำในเยื่อหุ้มปอดทั้ง 2 ข้าง(ดูรูป) นอนรักษาในรพ. 16 วัน ไข้ลง อาการค่อยๆดีขึ้น ก่อนกลับบ้านไม่ไอ ไม่เหนื่อย บวมยุบลง เดินได้ ไม่ต้องใช้ออกซิเจน เอกซเรย์ปอดดีขึ้นช้าๆ กลับมาตรวจอีกครั้งวันที่ 2 ตุลาคม น้ำหนักลด 5 กิโลกรัม ไม่บวม ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เหนื่อย ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้ว 95% เอกซเรย์ปอดดีขึ้นมาก (ดูรูป)

ช่วงนี้คนไทยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่กันมากถึงขนาดต้องสั่งยารักษาไข้หวัดใหญ่มาสำรองไว้ล่วงหน้าในรพ. เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้ขาดยา คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีนี้ ขอให้รีบไปฉีด 1 เข็มเพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่