ขยายผลยึดทรัพย์หนุ่มขนยา 6 ล้านไอซ์ 30 กิโลกรัม ใช้รถผักกะหล่ำปกปิดอำพราง พร้อมยึดทรัพย์กว่า 5 ล้านบาท เผยทำแล้ว 4 ครั้ง รับค่าจ้างครั้งละ 1 ล้าน

 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยึดทรัพย์กว่า 5 ล้านบาท

ตำรวจชุดสืบสวนช้างเผือก นำโดยพ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ และ สภ.ช้างเผือก ร่วมกันสกัดจับเฝ้าจับตาดูเฟซบุ๊ก พ่อค้ายารายใหญ่ ซึ่งรับยาโดยตรงจากลูกน้องของพันเอกจะลอโบ ราชายาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการโชว์ปืนอาวุธสงครามยาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามเฟซบุ๊กดังกล่าวมานานกว่า 6 เดือน จนมีการโพสต์ภาพ รถเก๋งยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน  เชียงใหม่ ทำให้ตำรวจเฝ้าติดตามรถดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีการตรวจพบว่าเมื่อคืนในที่ 1 ต.ค. รถดังกล่าวได้ขนผักกะหล่ำ มาเต็มลำรถและขับเข้ามาบริเวณถนนโชตนา บริเวณแยกข่วงสิงห์ จึงนำกำลังเข้าไปติดตามและขอตรวจค้นรถดังกล่าวก็พบนายบอล หรือนายบุญก่อ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปีบ้านอยู่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ค้นในรถพบยาบ้า 6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ซุกซ่อนโดยนำผัดกะหล่ำปกปิดไว้ด้านบน..จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปรับยามาจากพ่อค้ายาที่ ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นำไปส่งให้ลูกค้าที่พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 ล้านบาท โดยในรอบ 6 เดือนนี้ลอบขนมาแล้ว 4 ครั้งผ่านทุกครั้งไม่เคยโดนจับ

หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก แต่ทราบว่าหลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาอาทิ รถยนต์ 2 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง ทองรูปพรรณและทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท และจะได้ขยายผลการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายต่อไป


ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อยากฝากเตือนไปยังกลุ่มพ่อค้ายา อย่าได้เหิมเกริมใช้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเส้นทางลอบขนยาเสพติดทุกเส้นทางเพราะปกครอง ประสานงานกับทหาร ตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆ ในการดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด จะจับกุมทุกรายที่มีพฤติกรรมลอบค้ายาทุกคนให้สิ้นจากเชียงใหม่ต่อไป.