สาธารณสุขถกยุติธรรม เร่งคลอดกฎกระทรวงกำหนดจำนวนผู้ถือครองยาบ้ากี่เม็ดเป็นผู้เสพ เบื้องต้นมีผู้เสนอ 5 เม็ด เหมาะสมสุด คาดได้ข้อสรุปต.ค.นี้  พร้อมเปิดมินิธัญญารักษ์ จังหวัดละ 1 แห่ง ใน 100 วัน ใช้ชุมชนเป็นฐานบำบัด

    
 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข(สธ.)  เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม(ยธ.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อลดปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 1 ปี ทั้งแง่ปริมาณผู้เสพ ผู้ขาย ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงหารือเน้นหนักเรื่องการบำบัดดูแลผู้ใช้ผู้เสพผู้ติด ซึ่งโดยหลักแล้วนโยบายของ สธ. ผู้เสพก็คือผู้ป่วย จึงต้องมีการแบ่งระดับผู้เสพ เพื่อเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู โดยสธ.จะใช้อาการของผู้ป่วยแบ่งกลุ่มคือกลุ่มสีแดงผู้ที่ใช้ประจำ มีอาการติดเรื้อรัง มีประมาณ 36,000 คน คิดเป็น 8% , กลุ่มสีเหลือง ผู้เสพที่มีอาการ มีจำนวนค่อนข้างเยอะ 423,000 คน คิดเป็น 92% และกลุ่มสีเขียว ผู้เสพที่ไม่มีอาการ หรือเป็นผู้ใช้เฉยๆ ประมาณ 1.46 ล้านคน
    
   สองส่วนแรกจะเป็นหน้าที่โดยตรงของ สธ. ที่ต้องนำเข้าสู่การบำบัดในสถานพยาบาล เราได้ประกาศนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) ว่า 1 จังหวัดจะต้องมีมินิธัญญารักษ์รองรับ 1 แห่ง รวมๆ แล้วกลุ่มนี้เรามีตัวเลขประมาณ 459,000 ราย แต่อีก 1.46 ล้านคน ถือเป็นผู้ใช้ กลุ่มนี้เราทิ้งไม่ได้หากเจอตัว ก็จะมีระบบให้ชุมชนบำบัด เป็นความร่วมมือระหว่างสธ.กับกระทรวงมหาดไทย (มท.) รวมถึงเป็นการรองรับผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลแล้ว คืนคนเหล่านี้สู่สังคม สังคมก็ต้องรับไปดูแลต่อ ให้อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขที่สุดนี่คือเป้าหมายของเรา 
    
 นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ยธ.จะดูเรื่องเม็ดเงินงบประมาณที่ใช้ในการบำบัดรักษาฟื้นฟู ที่ถูกจัดอยู่ในงบฯ บูรณาการ ที่มีหลายกระทรวงร่วมดูแล สธ.เป็นเจ้าภาพจึงเน้นว่าทำอย่างไรให้งบประมาณที่ได้มาครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการบำบัดรักษามากที่สุด อย่างปี 2566 ของบฯ ไป 1.5 แสนล้านบาท แต่ได้มาเพียง 400 กว่าล้านบาท สามารถบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้เพียง 69,000 คน จึงต้องมาคุยกันว่าจะต้องช่วยกันดูแลอย่างไร นอกจากนี้ยังคุยกันเรื่องจะประกาศ Quick Win ร่วมกันในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่ง สธ.ประกาศไปแล้ว คือมีมินิธัญญารักษ์ทุกจังหวัดจังหวัดละ 1 แห่ง ภายใน 100 วัน ส่วน ยธ.ก็จะประกาศนโยบายเร่งด่วนในภารกิจของตัวเองเช่นกัน ว่า 100 วันเขาจะทำอะไร
    
 ทั้งนี้ สธ.จะต้องมาออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดจำนวนการถือครอบครองว่าจำนวนเท่าไรจะถือเป็นผู้เสพ ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีเหตุผลรองรับจะเป็น 1 เม็ด 5 เม็ด หรือ 8 เม็ด บนพื้นฐานเหตุผลทั้งมิติด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะนายกฯ ก็ได้ทวงถาม ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่ได้สรุป แต่ก็มีคนเสนอว่าให้กำหนดที่ 5 เม็ด แต่ข้อมูลทางการแพทย์ถ้าเอาปริมาณมิลลิกรัมที่เสพเข้าไปแล้วมีผลกระทบกับร่างกายกับจิตประสาท ก็จะใช้ตรงนี้เป็นหลัก แต่ในเชิงเศรษฐกิจ เชิงสังคมจำนวนผู้ต้องขัง ความสามารถในการรองรับต่างๆ ก็จะนำเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งการออกกฎกระทรวงไม่ได้กำหนดว่าต้องเมื่อไร แต่จะเร่งรัดให้เร็ว โดยไทม์ไลน์เดิมที่กำหนดไว้ก็คือภายใน ต.ค.นี้ จะต้องประกาศได้
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะพิจารณากำหนดมาตรการอะไรเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่ให้คนอ้างถึงจำนวนเม็ดที่ถืออยู่นั้นเป็นผู้เสพ แต่ที่จริงอาจจะเป็นผู้ค้ายา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มันไม่สามารถจะปิดได้ทั้งหมด แต่ในส่วนของสธ.ที่เน้นผู้เสพคือผู้ป่วย ไม่ว่าจะเสพกี่เม็ดเราก็ตีเป็นผู้ป่วยหมด อย่างไรก็ตาม กำหนดแล้วมีการครอบครองเกินจากนั้นจะถือเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งมีโทษหนัก หากครอบครองต่ำกว่าที่กำหนดก็จะถือเป็นผู้เสพ ไม่มีโทษ แล้วเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และตามกฎหมายจะให้มีการบำบัดรักษาโดยสมัครใจ แต่ถ้าไม่สมัครใจก็จะมีโทษ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด