สาววัย 26 ปีที่เคยสามีสาดน้ำกรดใส่ตาบอด ใบหน้าเสียโฉม ซ้ำยังโดนโกงจำนำรถมอเตอร์ไซค์ เพราะเท้าแชร์กับนายทุนเบี้ยวไม่ให้ไถ่ถอน ยังหวั่นว่าจะไม่ได้รถคืนหลังได้รับคำตอบยืนยัน”บอกว่าขาดก็คือขาด”สามีสงสารภรรยาที่เคยโดนตัวเองสาดน้ำกรด ทั้งยังมาโดนโกงจำนำอีก

วันที่ 29 ก.ย.66 กรณี น.ส. วันเพ็ญ เรืองรัตรัมย์ อายุ26ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 ม.9 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่ออยากให้เป็นตัวกลางช่วยติดตามเอารถมอเตอร์ไซค์ของตนเองที่เอาไปจำนำไว้กับนายทุน แต่ถูกปฏิเสธการไถ่ถอน ทั้งที่ยังไม่ครบ 1 เดือน 

ซึ่ง น.ส.วันเพ็ญ ซึ่งเคยถูกสามีสาดน้ำกรดใส่เมื่อปี 2560 จนตาบอดและใบหน้าเสียโฉม ได้ย้ำว่าเอารถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ทะเบียน 2 กค 1463 บุรีรัมย์ ในราคา 6,000 บาท หักดอก 900 ค่าจอด 500 หักค่าแชร์ 2,400 เหลือเงิน 2,200 บาท หมดสัญญาวันที่ 1 ต.ค.แต่นายทุนกลับไม่ยอมให้ไถ่ถอน ต้องใช้เงินถึง 25,000 บาท จึงจะไถ่ถอนได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าทางคดี ร.ต.ท. (หญิง) มริสา ศรีสุยงค์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำพรุ่งนี้ โดยมีหลักฐานเป็นแชทไลน์คุยกัน ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในเร็ววันนี้

น.ส.วันเพ็ญ เล่าด้วยว่า เมื่อปี 60 สามีที่สาดน้ำกรดถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี สารภาพลดเหลือ 1 ปี หลังจากออกมาจากเรือนจำก็กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เพราะสงสารลูก 3 คนที่มีด้วยกัน 

ครั้งนั้นตนออกสื่อมีคนบริจาคเงินมากว่า 1 ล้านบาท เอาเงินส่วนหนึ่งไปซ่อมแซมบ้าน อีกส่วนหนึ่งเอารักษาตัวเอง ซึ่งจะต้องเดินทางไปหาหมอทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ยังหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รถมอเตอร์ไซค์คืน หลังได้ยินเท้าแชร์ย้ำมาว่า”บอกว่าขาดก็คือขาด”

ด้านนายการันต์ แรบรัมย์ อายุ32ปี สามี น.ส.วันเพ็ญ บอกว่า รู้สึกสงสารภรรยา ที่เกราซ้ำกรรมซัด ครั้งนั้นตนยอมรับผิดที่เอาน้ำกรดไปสาดใส่ภรรยา เพราะแรงหึงหวง หลังจากติดคุกออกมาจึงมาขอโทษ แล้วมาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้หวังแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเดินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเกรงว่าจะไม่มีรถใช้ภายในครอบครัว