วันที่ 29 ก.ย.66 ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ชวนคนไทยดูแลสุขภาพหัวใจ “USE  KNOW  ใช้ใจรู้หัวใจตัวเอง สร้างเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงไปด้วยกัน ” เนื่องในวันหัวใจโลก ณ ชั้น 1 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5 เขตหลักสี่ ด้วยสมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation) กำหนดให้ทุกวันที่ 29 กันยายนของทุกปี เป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day) และในปี 2566 นี้เชิญชวนรณรงค์ภายใต้แนวคิด USE  KNOW เพื่อให้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะโรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยและทั่วโลก โดยมี ศ.คลินิก นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน และเปิดเวทีเสวนาให้ความรู้เรื่องโรค “หัวใจห้องบนสั่นพลิ้วอันตรายเกินคาดเสี่ยงสมองขาดเลือด” แก่ประชาชน นำทีมโดย นพ.ดำรงค์ สุกิจปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ​​​​​​​
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดตั้งศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขึ้นเมื่อปี 2561 เพื่อให้บริการผู้ป่วยในทุกสิทธิการรักษาแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจวินิจฉัย การรักษาทางห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ การผ่าตัดไฮบริดรักษากลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีศักยภาพในการทำหัตถการได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายและพัฒนานวัตกรรมบริการสุขภาพที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่เป้าหมายให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
การรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ซึ่งภาวะนี้มีหลายชนิดทั้งชนิดชั่วคราว ชนิดเป็นนานและชนิดถาวร แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาต่างกันออกไป ปัจจุบันมีการรักษาด้วยยา เช่น ยาป้องกันเลือดแข็งตัวหรือที่รู้จักกันว่า ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งการให้ยาจะช่วยลดโอกาสเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และการเสียชีวิต ซึ่งจะต้องทานไปตลอดชีวิตและมีส่วนน้อยเท่านั้นที่หยุดยาได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกลุ่มที่เป็นถาวร รวมทั้งมีนวัตกรรมการรักษาภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วด้วยวิธีการจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นวิทยุที่ทำให้เกิดความร้อน (Radiofrequency Ablation) เพื่อลดอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น ใจสั่น เหนื่อยง่าย แต่การจี้ด้วยความร้อนก็จะมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้เล็กน้อย ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาใช้การจี้ไฟฟ้าหัวใจด้วยความเย็น (Cryoablation) ซึ่งทั้งสองวิธีเป็นวิธีการรักษาที่ได้มาตรฐานสากล อันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าสามารถลดอาการของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วได้ สามารถฟื้นฟูสภาพการบีบตัวของหัวใจในผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรังที่มีสาเหตุมาจากภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ รวมถึงยังสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ในผู้ป่วยบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้เทคนิคการจี้ไฟฟ้าด้วยความร้อนหรือเย็นนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย โดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ​​​​​​​ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้เห็นถึงความสำคัญในการรักษากลุ่มผู้ป่วยภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว จึงได้พัฒนาศักยภาพการให้บริการด้วยวิธีการรักษาให้ได้เท่าเทียมระดับสากล รวมถึงยกระดับมาตรฐานการรักษาโดยนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาสุขภาพหัวใจที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี นายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และองค์ประธานผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
 ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เปิดให้บริการตรวจรักษากลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ณ ชั้น 2 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5 เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมบริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษา รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและบุคลากรสหสาขาวิชาชีพที่ร่วมปฏิบัติงาน โดยมีศักยภาพในการทำหัตถการได้อย่างครอบคลุม พร้อมยกระดับมาตรฐานการรักษาด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมทั้งส่งเสริมองค์ความรู้สู่ประชาชนในทุกมิติ “USE  KNOW  ใช้ใจรู้หัวใจตัวเอง สร้างเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงไปด้วยกัน” โดยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน