วันที่ 29 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้กำลังเดินทางไปกับคณะของนาย ชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ( สทน) ADT นำเอเย่นต์บริษัททัวร์ที่จัดนำเที่ยว จำนวน 30บริษัท ไปสำรวจเส้นทางใหม่ๆที่ประเทศเวียดนาม เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว และสร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยน การท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างประเทศ.,..
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว ศรีสะเกษกล่าวว่า ทราบมาว่าท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา เดินทางไปประเทศกัมพูชา จึงอยากวิงวอนให้ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ช่วยจังหวัดศรีสะเกษด้วย เพราะศรีสะเกษไม่มีทะเลและภูเขาให้นักท่องเที่ยวสนใจที่อยากเดินทางมาชม ทำให้ต้องพยายามขาย ประเพณีวัฒนธรรม ขายประวัติศาสตร์จากปราสาทต่างๆที่เรามี และขายแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ เช่นน้ำตก และผามออีแดง แต่ก็ยังไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากนัก จำได้ว่า เมื่อมีการเจรจากับทางกัมพูชาและมีการเปิดเขาพระวิหารเป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อปี 2538 มีนักท่องเที่ยวมาขึ้นเขาพระวิหาร ด้วยรถบัส จำนวนมากถึงวันละ100 คันรถ สามารถ สร้างเศรษฐกิจรายได้ให้ศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก
หากท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐามี การ
เจรจากับทางประเทศกัมพูชาให้ เปิดเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว ทางฝั่งไทย ได้เหมือนเดิม จะมีหลายจังหวัดทางภาคอีสานใต้ที่สามารถใช้เส้นทางนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาเที่ยวทางอีสานใต้ได้ ซึ่งเมื่อเราไปคุยกับชาวกัมพูชาที่อยู่ใกล้เขาพระวิหาร เขาก็ต้องการให้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมทางฝั่งไทยเหมือนกัน จะเกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา ดิฉันมีความหวังมากว่าหาก ท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา มีการเจรจาเรื่องนี้กับทางกัมพูชา ทางกัมพูชา จะต้องเปิดให้เราอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและราษฎรได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เพราะในสมัยที่ท่านนายกรัฐมนตรีทักษิณ ได้เดินทางมาประชุมสัญจรที่จังหวัดศรีสะเกษและ ดิฉันในฐานะนายกฯท่องเที่ยวได้เสนอในที่ประชุมให้เปิดเขาพระวิหาร ท่านนายกทักษิณได้คุยกับทางกัมพูชาและสามารถทำให้ ทางกัมพูชาเห็นด้วยและ เปิดเขาพระวิหารให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ทันที….
นายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ( สทน) ADT กล่าวว่า ขอสนับสนุนในเรื่องให้มีการเปิดเขาพระวิหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่งที่ศรีสะเกษ เพราะ เป็นการจัด พานักท่องเที่ยวไทยให้ท่องเที่ยวภายในประเทศไทย จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้แก่ประเทศไทยได้มาก เป็นการเปิดมรดกโลกเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้นโยบายของสมาคม นอกจากจะสนับสนุนเส้นทางการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยยังต้องการที่จะมี เครือข่าย แหล่งท่องเที่ยวของต่างประเทศด้วย เป็นการสร้างสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศและระหว่างผู้ประกอบการ จึงขอรณรงค์ให้มีการเปิดด่านช่ิองนี้เชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวสู่เขาพระวิหาร ขณะนี้แม้เพียงแค่นักท่องเที่ยวได้ทราบข่าวดีเกี่ยวกับ อุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลกศรีเทพที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ยังทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจจะไปชมจำนวนมาก หากมีการเปิดเขาพระวิหารเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง ก็จะสามารถทำเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและ สร้างรายได้ มหาศาลให้แก่ประเทศไทยได้