วันที่ 29 ก.ย.66 กองอำนวยการป้องกันและะบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธรประกาศเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มน้ำชีหลังเขื่อนลำปาวเร่งระบายน้ำออกวันละ20 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรเปิดเผยว่าด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) แจ้งว่า สถานการณ์น้ำ
ในลุ่มน้ำชี - มูล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ
ปริมาณมาก โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว ปัจจุบันปริมาณน้ำคิดเป็นร้อยละ 102.67 ของความจุเก็บกัก จึงมีความจำเป็นปรับเพิ่มการระบายน้ำ ในอัตราวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดจนถึงประมาณ 20ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนลำปาวมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ด้านท้ายน้ำ และจากการติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณสถานี M. อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชรานี


วันที่ 26 กันยายน 2566 ระดับ112.33 เมตรระดับทะเลปานกลาง (ม.ราก. สูงกว่าหลิ่ง 0.33 เมตร และปริมาณฝนคาดการณ์ พบว่า ในวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ระดับน้ำจะอยู่ที่ระดับ +112.84 ม.รทก. (สูงกว่าตลิ่ง 0.84ม.)


ซึ่งปริมาณน้ำจะลันตลิ่งต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณแนวฟันหลอและไหลหลากเข้าท่วมขุมชนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำจึงขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตสิ่งและน้ำท่วมขัง ได้แก่ อำเกอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว มหาขนะชัย และค้อวังจังหวัดยโสธร ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2566และขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำชีและเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของลุ่มน้ำชี ทำให้เกิดน้ำลันตลิ่งและน้ำท่วมขัง และประสานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ หน่วยทหาร เครือข่ายเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. และจิตอาสาภัยพิบัติในพื้นที่และเตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง