“สนธิญา” ชี้นักข่าวรับเงินไม่ผิด อยู่ที่เจตนาผู้ให้และผู้รับ เชื่อมีจรรยาบรรณวิชาชีพ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย.66 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายสนธิญา สวัสดี อดีต ที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อร้องขอให้ช่วยไตร่ตรองกรณีมีบุคคลมาร้องเรียน บก.ปปป. ให้ดำเนินการตรวจสอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ปมให้เงินนักข่าว

นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการย้ายตำรวจขั้นผู้ใหญ่ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากหากเป็นเรื่องจริง อยากให้กลับไปคิดถึงสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี กระทั่งศาลสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยังต้องการให้ตรวจสอบบุคคลภายนอกที่ยื่นเรื่องให้ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบนักข่าว 10 คน ไปรับเงินหรือช่วยเหลือเว็บไซต์พนันออนไลน์ ส่วนตัวมองว่า นักข่าวมีจรรยาบรรณ การที่บอกว่า นักข่าว รับเงิน เป็นการดูถูก ส่วนตัวไม่เชื่อในประเด็นนี้ จึงต้องการมาร้องขอความเป็นธรรม และทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง 

นายสนธิญา กล่าวว่า การรับเงินของนักข่าวรับได้ แต่อยู่ที่เจตนาของผู้ให้และผู้รับ ไม่เชื่อว่านักข่าวจะมีการรับเงินเพื่อฝักใฝ่ฝ่ายใด ที่ผ่านมา ตนเองเคยให้เงินนักข่าวที่สนับสนุนอดีตพรรคการเมืองที่ตนอยู่ แต่กลับถูกปฏิเสธ จึงทำให้เชื่อว่า นักข่าวมีจรรยาบรรณ จึงทำให้ต้องมายื่นในวันนี้ เชื่อว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง จะใหัความเป็นธรรมกับเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ นายสนธิญา ฝากถึงบุคคลนอกว่า การต่อยมวยมีกติกาลูกผู้ชาย เวลาต่อยมวยกัน คนอื่นล้ม มวยไทย ไม่ซ้ำ นั่นคือสัญญาของลูกผู้ชาย ขณะเดียวกัน ไม่ควรซ้ำเติม ตำรวจ ในกรณี บิ๊กโจ๊ก  ถือว่าไม่มีความเป็นธรรม