"สนั่น" เปิดมุมมองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง รุกถกพาณิชย์ หวังตัวเลขส่งออกปีนี้พลิกบวก ไม่ห่วง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ชี้ไทยยังต่ำกว่าประเทศในอาเซียน มั่นใจปีนี้จีดีพีโต 3% ส่วนปี 67 โต 5%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความชัดเจนของมาตรการต่างๆของรัฐบาลในช่วงที่ผ่าน มา โดยเฉพาะมาตรการลดค่าครองชีพและต้นทุนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ผ่านการลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาท และลดค่าน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นควบคู่ไปด้วย เสริมกับนโยบาย Free Visa แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานที่น่าจะช่วยกระตุ้นให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีนี้ขยับขึ้นไปแตะที่ 28-30 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่น่าจะถึง 5 ล้านคนได้ ผ่านสัญญาณการจองเที่ยวบินและห้องพักที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนในระยะยาว รัฐบาลควรเน้นการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายและอยู่ในประเทศไทยนานขึ้น ด้านประเด็นการส่งออกที่ชะลอตัวหลายเดือนและมีสัญญาณพลิกกลับมาเป็นบวกในเดือนสิงหาคม ถือเป็นสัญญาณที่ดีโดยหอการค้าฯ มองว่าหลังจากนี้ในไตรมาส 4 สถานการณ์น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ และทำให้ภาพส่งออกปีนี้อาจไม่ติดลบหรือติดลบน้อยที่สุด
ส่วนการที่ กนง.มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.50% หอการค้าฯ ยังไม่มีความกังวลในประเด็นดังกล่าว เพราะไทยถือว่ามีอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยของไทยกับต่างประเทศไม่ห่างกันมากนัก และเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของไทย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเงินบาทมีการอ่อนค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หอการค้าฯ เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มจีดีพี 0.6-.08% และทำให้ภาพรวมจีดีพีทั้งปีโตได้ถึง 3% ตามที่ตั้งไว้
สำหรับการเยือนสหรัฐอเมริกาของท่านนายกรัฐมนตรีในการประชุม UNGA และการพบปะหารือกับภาคธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และสถาบันการเงินและกองทุนระดับโลก เอกชนมองว่าถือเป็นความสำเร็จและน่าชื่นชมรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับการต่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาการค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนนี้จะช่วยสนับสนุนให้ภาคการส่งออกของไทยขยายตัวได้เนื่อง เอกชนเชื่อว่ารัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศที่ไทยได้เริ่มดำเนินการกับหลายประเทศ เพื่อเร่งขยายตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะ FTA ไทย - EU และอีกหลายฉบับไปพร้อมกับการจัด Road Show ขยายตลาดใหม่ ไปยังประเทศกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพเช่น จีน ซาอุดิอาระเบียและตะวันออกกลาง อินเดีย และประเทศแถบแอฟริกา เพื่อดึงดูดการลงทุนใน EEC ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทั้งกลุ่ม EV พลังงานสะอาด AI เกษตรสมัยใหม่ สุขภาพ และ FinTech ให้มากที่สุด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกมากขึ้น โดยเอกชนหวังว่าโมเมนตั้มดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการลงทุนจริงในระยะต่อไป
ทั้งนี้หอการค้าฯมองจีดีพี ในปีหน้าปี 2567 ใกล้เคียงกับรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ 5% แม้จะเป็นเรื่องท้าทาย แต่หากได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายแจกเงินดิจิทัล ที่หากสามารถดำเนินการได้สำเร็จน่าจะช่วยเพิ่มจีดีพี 2-3% ภายใต้การส่งออกที่เติบโตที่มากกว่าปีนี้ ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่มีปัจจัยแทรกซ้อน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งด้าน Geopolitics ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นตัวเลข 5% ในรอบหลายปี ซึ่งทุกฝ่ายคงต้องช่วยกันให้บรรลุเป้าหมาย