นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เละ!!" กล่าวว่า บทเรียนชีวิตรอบที่สามในหน้าที่ตำรวจของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก มีเดิมพันสูง แล้วยังส่อถึงเส้นทางไต่เต่าระดับไปถึงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจยิ่งยาก และโอกาสคงจบสิ้นแล้ว
นายจตุพร กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ตั้งคณะกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ กรรมการเเละเลขานุการ มาตรวจสอบการบุกค้านบ้านพักบิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) โดยกำหนดไว้เวลา 30 วันและต้องรายงานความคืบหน้าทุก 10 วัน
ทั้งนี้ ในวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลาเช้าตรู่ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมหน่วยคอมมานโด นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก และบ้านที่ซื้อไว้ให้ลูกน้องพักรวม 5 หลัง ในหมู่บ้านซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ เพื่อขยายผลการสอบสวนเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายตามระบุในหมายค้น
นายจตุพร กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการทั้ง 3 คนมาตรวจสอบนั้น ไม่รู้นายกฯ มีหลักคิดอะไรหรือไม่ แต่ที่สำคัญในวันที่ 27 ก.ย.นี้คณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) จะพิจารณาเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ เท่ากับว่าบิ๊กโจ๊กในฐานะ รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 2 อาจจบเส้นทางได้รับพิจารณาเป็น ผบ.ตร.ในปีนี้ ส่วนจะจบตลอดไปในอนาคตหรือไม่ ต้องพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง
อีกทั้ง เห็นว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับบิ๊กโจ๊ก เพราะยังไม่ได้รับข้อกล่าวหาใดๆ แต่การออกหมายค้นเป็นการอนุมัติตามแหล่งที่ปรากฎในการสอบสวน ส่วนการออกหมายจับตำรวจอื่นๆ ที่เป็นลูกน้องนั้น เมื่อยื่นขอศาลก็ได้รับอนุมัติทั้งสิ้น
“กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การตรวจสอบบุคคลจะขึ้นดำรงตำแหน่งไม่ว่าในองค์กรใด หรือหน่วยงานใดต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และอย่าได้มองว่า การตรวจสอบนั้นเป็นการรังแกกัน แต่ควรท่องไว้ว่า ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ”
นอกจากนี้ เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายยึดปฎิบัติ เริ่มด้วยการตั้งข้อกล่าวหา แล้วต่อสู้ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นความจริงที่ดำรงอยู่ ดังนั้น การต่อสู้คดีของบิ๊กโจ๊กต้องเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนตำรวจใกล้ชิดถูกหมายจับแล้ว แต่ขณะนี้ศาลได้ให้ประกันตัวทุกคน
“สิ่งที่น่าสนใจ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพเรียบร้อยหมด แต่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลับไม่พิจารณาแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. ดังนั้น การประชุมวันที่ 27 ก.ย. อาจได้ ผบ.ตร.ใหม่เลย ส่วนบิ๊กโจ๊กคงต้องออกจากเส้นทางในปีนี้”
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังอยากให้ รัฐบาลเร่งรีบปฎิรูปตำรวจ สกัดเงินซื้อตำแหน่ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต มีรายได้ยังชีพอย่างมีเกียรติ มากศักดิ์ศรีผู้ผดุงคุณธรรม ระบุนำตัวแบบของศาลมาพิจารณาปรับองค์กรให้โปร่งใส
ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน