“บิ๊กโจ๊ก”นำทีม 8 นายตำรวจ-ทนายกระดูกเหล็ก เปิดหน้าแลกสู้คดีเว็บพนัน แย้มรอดู “บิ๊กเซอร์ไพรส์” วงการสีกากีสัปดาห์หน้า

เมื่อเวลา 18.15 น.วันที่ 27 กันยายน 2566 ที่สำนักงานทนายความอนันต์ชัย ไชยเดช ถ.โชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมตำรวจ 8 นายที่ถูกกล่าวหาดำเนินคดีข้อหาพนันออนไลน์ ได้ตั้งโต๊ะเปิดหน้าแถลงประกาศพร้อมสู้คดีดังกล่าว

ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับนายตำรวจทั้ง 8 นาย เป็นเพียงการคุยกันแบบกว้างๆโดยไม่ได้ลงในรายละเอียด ยืนยันว่าคดีนี้เราไม่หนักใจ ทางนี้ได้ขอให้ทุกคนเปิดหน้าเปิดตาเพราะเราเป็นลูกผู้ชายแล้วปกติเราไปจับคนอื่นก็เปิดหน้าเปิดตา จากกรณีที่เกิดขึ้นเบื้องต้นจะฟ้องดำเนินคดีอาญาทั้งทางแพ่งละเมิด ทางอาญาทุจริต กับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย และอาจจะฟ้องต่อศาลปกครอง ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ใครจะเป็นอะไรตนไม่สนใจ ตนสนใจอยู่อย่างเดียวว่าถูกหรือผิด หรือผิด ซึ่งน้องๆ ตำรวจก็ยืนยันว่าไม่ผิด

"ผมเลยอยากจะยกตัวอย่างว่าเขากล่าวหาคุณมินนี่เป็นเจ้าแม่พนันออนไลน์ ซึ่งการเป็นเจ้าแม่พนันออนไลน์ ถามว่าตำรวจเขารู้ไหม ซึ่งเขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องมาบอกผม แต่ถ้าเขาบอกว่าไม่รู้ แล้วผมได้เงินมาแล้วเอาเงินนี้ แล้วไปจ่ายให้พ่อค้าแม่ค้า ที่ขายก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด หรือไปจ่ายในห้างสรรพสินค้าแล้วตำรวจต้องตามไปไล่เช็คตามบิล พ่อค้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวด้วยหรือ คิดว่าเรื่องนี้ไม่ถูก ฉะนั้นการที่เปิดต่อสาธารณชนเป็นความลับของทางราชการทั้งนั้น"

ทนายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ข้อมูลเหล่านี้ สอท.ไปดูดมา แล้วคุณเอาไปให้คนๆหนึ่งเผยแพร่สื่อมวลชนได้อย่างไร ถามว่าคนที่พูดเป็นฉากๆได้อย่างไร เขาเป็นตำรวจหรือในขณะที่ตำรวจเงียบกริบ เป็นโฆษก สตช.หรือ ดังนั้นชุดพนักงานสอบสวน สอท.ทั้งหมด เตรียมตัวเอาไว้ก็แล้วกัน ไม่มีมวยล้มต้นคนดู หลังพิงเชือก กูสู้แหลกไม่ใช่หัวชนฝาแต่สู้แบบปัญญาชน ที่ผ่านมาเขาทำ ความดีอะไรบ้างมาบ้างไม่สรรเสริญเยินยอบ้างเหรอ แต่พอทีเดียวเอาเขาตายเลย ฝากเตือนคนที่เผยแพร่ ตนเอาตายดูว่าตนฟ้องคดีอะไรมาบ้าง และเคยฟ้องคดีหมิ่น ประมาทให้ใครบ้าง ซึ่งก็มีตัวอย่างทำคดีให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มาแล้ว

"ผมขอฝากสอท.ว่าให้ทำสิ่งที่ถูกต้องเพราะถ้าหากทำสิ่งที่ถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง คุณจะรู้ว่านรกมีจริง หากคนที่ไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรม ส่วนคนที่ผิดก็ต้องว่ากันไปตามที่ผิด ทั้งนี้ในอดีตตนเคยทำดีให้กับพล.ต.อ.สรีพิศุทธ์  ที่ถูกนายกฯสมัคร สุนทรเวช ย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วยังถูกดำเนินคดีและโดนปลด แต่สุดท้ายต้องคืนตำแหน่งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะท่านไม่ผิด ซึ่งคดี"โจ๊กอัคนี"ถือว่ากระจอกมาก ขอบอกว่าไม่หมูอย่างที่ท่านคิด และผมเป็นนักสู้เต็มที่เพราะพ่อชื่อสุริยา สิงห์พยัคฆ์ เป็นนักมวย คดีอาญาอยู่ที่เจตนา ซึ่งหากบอกว่าไม่รู้ก็จบ สำหรับคดีนี้ต้องบอกว่าสู้กันยาว สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นจะมีการเอาคืนใครบ้าง จะแจ้งให้ทุกคนทราบเป็นระยะๆ”

เมื่อถามว่า บิ๊กโจ๊ก มีความคิดเห็นอย่างไรที่วันนี้ได้มีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.แล้วนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบเพลงสั้นๆว่า ยืนยันว่าเป็นเรื่องผู้บังคับบัญชา และในฐานะที่ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องยินดี และยืนยันว่าไม่มีข้อพิพาทกับท่าน

ด้าน ทนายอนันตชัย กล่าวว่า จากกรณีนี้อาทิตย์หน้ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์ดูว่ามีอะไรจะเกิดขึ้นกับวงการสีกากีบ้าง และยืนยันว่าไม่มีมวยล้ม

ด้านพ.ต.อ.ภาคภูมิ ซึ่งปรากฏรูปถ่ายใกล้ชิดกับ"มินนี่"นั้น ยอมรับว่า ตนรู้จักกับมินนี่จริง มีความสนิทสนมพอสมควร  แต่ไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไร สำหรับมินนี่เป็นคนที่เขาชอบถ่ายรูป แล้วเวลาเจอก็จะต้องขอถ่ายรูปคู่ ทั้งนี้ ตนรู้จักกับมินนี่เมื่อครั้งที่ตนเป็นผู้กำกับเมืองเลยปี '63 เนื่องจากแม่เขาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งหลังจากย้ายตำแหน่งไม่ได้อยู่ จ.เลย แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกจนกระทั่งมินนี่ถูกจับ เขาก็โทร.หาตนเองเพียงครั้งเดียว และเป็นการคุยกันไม่ถึง 1 นาที โดยตนบอกว่าถูกจับก็ให้ประกันตัว ทั้งนี้ให้ไปถามผู้กำกับ สภ.ที่จับตัวมินนี่ได้เลยว่าตนเองได้เคยโทรไปติดต่อเรื่องคดีหรือไม่

"รู้จักกัน 2 เดือน และหายไป 2 ปี มาเจออีกครั้งต้นปี 2566 และเจอกันไม่กี่ครั้ง โดยให้มินนี่มาตอบดีกว่า เพราะผมเป็นผู้ชาย ให้ผู้หญิงพูดจะได้ไม่เสียหาย"พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกสงสารผู้ที่ต้องมาเกี่ยวข้องหรือไม่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า ถูกครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะตน และโอนเงินไปเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ อย่างน้องชาย หรือพาดพิงถึงผู้บังคับบัญชา ซึ่งเรื่องนี้ตนเองต้องรับและแก้เอง โดยมอบหมายทนายความดำเนินการทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงรูปภาพคู่ว่า เป็นภาพช่วงต้นปีนี้ สังเกตว่าอยู่ในร้านอาหาร งานเลี้ยง ซึ่งมีคนขอถ่ายรูปก็เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ปฏิเสธความรู้จักและสนิทสนม ซึ่งเรื่องส่วนตัวถ้ามีเจตนาทำให้เสียหายก็จะมอบทนายความดำเนินการทุกเรื่อง เพราะถือว่าทำเกินไป ยืนยันไม่เสียกำลังใจ ทำไปตามกฎหมาย

สำหรับกรณีที่มีการบุกเข้าไปคนบ้านบิ๊กโจ๊กนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องดิสเครดิต ทำกันเกินไป ของกันนี้ยังยืนยันว่าตนไม่เคยเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ตนเองมีบัญชีเดียวในชีวิตคือบัญชีเงินเดือน และถ้าหากรู้ว่าเป็นเงินผิดกฎหมาย ถามว่าจะให้โอนเงินเข้าบัญชีของตนเองหรือไม่ ส่วนนายตำรวจติดตามบิ๊กโจ๊ก ปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าตนเองเล่นการพนันนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนรายละเอียดไม่ขอตอบเพราะจะมีผลต่อรูปคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายได้ดำเนินการทางคดี  และกราบขอโทษพี่โจ๊กด้วยที่ทำให้เดือดร้อน

ด้าน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไป ยืนยันไม่ได้วิตกกังวล เพราะเรื่องจริงและความจริงจะชัดเจนในวันหน้า

ขณะที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องหมุนเงินไม่ทัน และไม่เล่นการพนันแน่นอน โดยขอให้สอบถามรายละเอียดกับทนายความ เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี