เมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี, พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.8 บก.ทล. และ พ.ต.ท.ปรัชญา กัมลาศพิทักษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. สั่งการให้ร.ต.อ.จรัญ ทองอินทร์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.8 บก., ด.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์ และ จ.ส.ต.จตุพร บุญสม ผบ.หมู่ ส.ทล.2. กก.8 บก.ทล. ร่วมกันจับกุมนายกิตติเมธี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ภูมิลำเนา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ข้อกล่าวหา : “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ตามหมายจับ : ศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.501/2566 ลงวันที่ 25 ก.ย.2566
สืบเนื่องมากจากกรณีลูกน้อง “กำนันนก” ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ “สาวัตรศิว” เสียชีวิต ระหว่างงานเลี้ยงภายในบ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายตำรวจ 6 นาย มีหลักฐานว่าให้ความช่วยเหลือ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก และถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 6 นาย ถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ แต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.66 ญาติของตำรวจทั้ง 6 นาย ได้มีการร้องเรียนผ่าน ภ.จว.นครปฐม รวมถึงสื่อมวลชนว่า มีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม ระดับรองผู้บัญชาการเรือนจำ ติดต่อมายังญาติตำรวจ เพื่อเรียกเงินคนละ 7,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าแรกเข้า ค่าอาหาร ตลอดจนเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัวภายในเรือนจำ ซึ่งญาติผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย หลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปคนละ 7,000 บาท รวมเป็นเงิน 42,000 บาท จนกระทั่งทราบว่าถูกหลอก เนื่องจากสุดท้ายแล้วผู้ต้องหาไม่ได้มีการไปควบคุมที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อไปยังหมายเลขของคนร้ายได้อีก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อขอให้ช่้วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่ทำการหลอกลวง อ้างตนเป็น รอง ผบ.เรือนจำ คือ นายกิตติเมธี พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. (สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง) สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 ถึงปัจจุบัน พบว่าเคยถูกแจ้งความดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ฉ้อโกง ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ลักทรัพย์ มากกว่า 30 คดี ส่วนมากเป็นในเขตพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จ.ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี สุพรรณบุรี เพชรบูรณ์ ฯลฯ หลังจากการจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ในช่วงกลางวันของวันที่ 26 ก.ย. 2566 ทาง บก.สส.ภ.1 ได้จับกุมตัว นางทัศนัย ศักดิ์ดี อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.501/2566 ลงวันที่ 25 ก.ย. 2566 ในข้อหาเดียวกันกับนายกิตติเมธี โดยนางทัศนัย เป็นเจ้าของบัญชีม้า ที่ทางญาติตำรวจได้โอนเงินเข้าไป ส่วนนายกิตติเมธี เป็นคนโทรหาญาติและทำการหลอกลวงจนญาติตำรวจหลงเชื่อ โดยทางกองบังคับการตำรวจทางหลวง และตำรวจภูธรภาค 7 อยู่ระหว่างการขยายผลเพราะเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก

