นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เสี่ยง!!" เมื่อ 25 ก.ย. 2566  ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลโดยทุบกระปุกออมสินกู้เงินออมของเด็ก 5.6 แสนล้านบาททำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นแนวทางที่เหี้ยมกับการหาเงินไปเข้ากระเป๋ากลุ่มทุนให้ร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก

นายจตุพร กล่าวถึง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า รัฐบาลเพื่อไทยจะกู้เงินจากธนาคารออมสินว่า เป็นการแสดงถึงเอาเงินเด็กเก็บออมไว้มาแจก ซึ่งจะไปเข้ากระเป๋ากลุ่มทุนรายใหญ่ในกระบวนการสุดท้ายอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจเช่นนี้หรือไม่ กับการกล้าเอาเงินเด็กไปช่วยบรรดาเจ้าสัวคนรวยได้ขายสินค้า ดังนั้น รัฐบาลต้องคิดให้หนัก

“สิ่งที่คุณศิริกัญญาออกมาพูดว่ารัฐบาลจะกู้เงินออมสินนั้น ผมยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างนั้น เพราะยังไม่ได้ยินมา แต่คิดว่า รัฐบาลไม่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่ควรไปทุบกระปุกออมสินของเด็กมาแจกจ่ายให้นายทุนร่ำรวยอีก เพราะธนาคารออมสินเป็นธนาคารแห่งเดียวที่มีความมั่นคงและมีเงินออมมากที่สุดในบรรดาธนาคารในประเทศขณะนี้”

พร้อมเชื่อว่า เงินดิจิทัล 5.6 แสนล้านนั้น ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจชาวบ้าน แต่เป็นการกระตุ้นการผลิตของบรรดาเจ้าสัว หากให้ชุมชนผลิตสินค้าเพื่อซื้อขายกันเองจะเกิดประโยชน์กว่า โดยเงินก้อนแรกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ต้องให้ประชาชนหรือชุมชนที่ยากลำบากได้ประโยชน์ก่อน 
“กู้เงินเด็กมาแจกมันเหี้ยมไป และรู้เลยว่า ใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ โดยกลุ่มทุนใหญ่เท่านั้นที่ได้ประโยชน์อยู่ดี ไม่มีปลายทางให้ประชาชนได้ประโยชน์เลย สุดท้ายคนไทยต้องเป็นหนี้ธนาคารออมสิน ดังนั้น จึงไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะเอาเงินเด็กเก็บออมไว้ที่ธนาคารออมสินออกมาแจกจ่าย เท่ากับเป็นการเอาเงินเด็กมาช่วยเติมชีวิตกลุ่มทุนให้ร่ำรวยขึ้นไปอีก”


นอกจากนี้  นายจตุพร ยังกล่าวว่า ส่วนศึกแย่ง ผบ.ตร.เชื่อเป็นหนังม้วนยาว มีภาคต่อเอาคืน  แนะแก้ รธน.เร่งเวลาเสร็จเร็ว ยกงานศึกษาเก่ายุค “ประยุทธ์” มาสานต่อเลย ส่วนการแก้ รธน. 2560 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า สามารถแก้ได้เฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนแก้ได้ยากมาก แต่มีกำหนดแนวทางจะเอา รธน. 2540 มาเป็นตัวตั้งให้เกิดการแก้ไข อย่างไรก็ตาม การแก้ รธน.ครั้งนี้คงนำร่องไปสู่เป้าหมายการเลือกตั้งจะชนะพรรคก้าวไกลได้อย่างไร โดยมีผู้รู้หลายคนบอกว่า มีวิธีเดียวคือ ต้องยกเลิก สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน หากไม่ทำแล้วคงไม่มีหนทางอื่นที่เพื่อไทยจะสู้ได้เลย

 

 

 

ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน