ตำรวจไซเบอร์สนธิกำลังบุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก หลังขยายผลลูกน้องคนสนิทเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ พร้อมเปิดชื่อ 8 ตำรวจโดนหมายจับ ขณะที่"บิ๊กโจ๊ก" ยันไม่มีเอี่ยวเว็บพนัน-แก๊งคอลฯ โวยหมายค้นไม่สุจริต เป็นเรื่องการเมืองภายในสำนักงานตร. ด้านนายกฯรับรายงานค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ชี้เรื่องใหญ่เล็งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบล้างบาง

     เมื่อวันที่ 25 ก.ย.66 เวลา 06.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท. ผบก.ทล. สนธิกำลัง บก.สอท. พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าตรวจค้น บ้านพักเลขที่ 9/147 และ 9/148 ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.  ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งหลังสโมสรตำรวจ ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ภายหลังพบข้อมูลความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนันออนไลน์
   
  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นลักษณะทาวน์โฮม 3 ชั้น เชื่อมติดต่อกัน 2 คูหา บริเวณหน้าบ้านมีรถจอดอยู่ 3 คัน รถโตโยต้า อัลพาร์ด สีบรอนซ์ ทะเบียน งค  51 สงขลา , รถเลนซ์ โรเวอร์ สีเทา ทะเบียน ทม 51 กรุงเทพมหานคร และรถเล็กซัส สีขาว ทะเบียน ขพ 51 สงขลา โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน โดยขอให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นำตรวจค้นด้วยตัวเอง กระทั่ง เวลา 08.30 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงเปิดประตูออกมาต้อนรับ
    
 ภายหลังตรวจที่บ้านสองหลังแรก ชุดตรวจค้นได้เข้ามาค้นที่ บ้านเลขที่ 9/157 และ 9/158 เป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น 2 หลัง ห่างจากจุดแรก 100 เมตร มีป้าย บริษัท ซี แอนด์ ทู โปรเกรส จำกัด ติดอยู่ที่หน้าบ้านดังกล่าว โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นผู้นำค้นด้วยตัวเอง 
   
  นอกจากนี้ ตำรวจยังขอหมายศาลเตรียมเข้าตรวจค้นอีกหลายจุดทั้งในกทม. ขอนแก่น เลย สมุทรปราการ และนครปฐม โดยมีรายงานว่าตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นเครื่องมาที่กองบิน 6 และนำตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5
   
  มีรายงานด้วยว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นการขยายผลมาจากคดีการจับ นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก หรือบอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์หรือราชันโคขาว ในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน โดยหนึ่งในนั้นคือการซื้อทีมฟุตบอล ซึ่งทรัพย์สินที่คาดว่าจะต้องถูกยึดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งบ้าน ที่ดิน และรถหรู รวมถึงสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ เนื่องจากพบว่านายพงษ์ศิริได้ซื้อสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ในการฟอกเงิน
   
  พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เปิดเผยถึงกรณีที่ได้มีการระดมกำลังกวาดล้างเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์รวม 30 จุด ใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการหลังขยายผลเว็บพนันออนไลน์เบ็ตฟลิกซ์รอยัลดอทคอม และเว็บพนันอื่นๆ รวม 12 เว็บไซต์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องจนมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 23 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 8 นาย จากการพฤติการณ์พบว่าขบวนการนี้แบ่งหน้าที่กันทำชัดเจนเป็น 4 กลุ่มความผิด 1.บริหารจัดการเว็บพนันออนไลน์ 2.จัดหาบัญชีม้า 3.จัดการธุรกรรมการเงินและบัญชี และ 4.ผู้ได้รับผลประโยชน์จากบัญชีม้าดังกล่าว 
   
  ส่วนจะเชื่อมโยงกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์หรือไม่นั้น ณ ขณะนี้ยังไม่พบ แต่ก็ต้องมีการขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะนอกเหนือจากหลักฐานที่นำมาใช้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้ ตำรวจยังมีพยานหลักฐานให้เชื่อได้ว่าบ้านหลังดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย
    
 ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านทั้ง 5 หลังหลังสโมสรตำรวจ ซอยวิภาวดีรังสิต 60 ว่า การนำหมายค้นมาค้นบ้านพักของตนเองไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนลูกน้องที่ถูกออกหมายก็ต้องไปต่อสู้คดีกันเอง เพราะยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่กล่าวอ้าง แต่เกี่ยวข้องเฉพาะการปราบปรามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหมายค้นก็จำเป็นต้องให้ความร่วมมือ
    
   ใครที่โดนตามหมายก็จำเป็นที่จะต้องไปชี้แจงต่อไป หากลูกน้องทำผิดก็ว่าไปตามผิดไม่ละเว้นใดๆ ทั้งสิ้น แต่มั่นใจในการทำงานของลูกน้องเพราะทำงานด้วยกันมานาน หากทำผิดจริงคงผิดไปนานแล้ว ไม่หนักใจ
     
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ คงไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เพราะไม่ได้เป็นแคนดิเดตอยู่แล้ว ต้องไปดูระเบียบต่างๆ และไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องการสกัดตำแหน่งผบ.ตร. ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้หากมีใครผิดก็ต้องเข้าค้นได้ แม้ตนเองจะเป็นรอง ผบ.ตร. ก็ตัองให้เข้าค้นได้เช่นกัน แต่เมื่อเช้านี้ที่ตอนแรกไม่ยอมให้ค้น เพราะตนเป็น รอง ผบ.ตร.จำเป็นต้องให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาตรวจค้น และส่วนตัวไม่ได้กังวลใจว่าจะมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์
    
 ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีฯ ว่า การออกหมายค้นในครั้งนี้เป็นการออกหมายโดยไม่สุจริตเพราะแจ้งกับศาลเพียงแค่บ้านเลขที่เท่าไหร่ แต่ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านของใครโดยที่ตำรวจหลายนายนั้นรู้อยู่แล้วว่าเป็นบ้านของตน แต่ว่าไม่เป็นไร เมื่อมีหมายมาแล้วก็ต้องให้ค้นเพียงแต่ว่าต้องมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมในการตรวจค้นด้วย เมื่อค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ตนกล่าวว่าในการตรวจค้นบ้านของตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้นจะต้องมีพยานหลักฐานในกรณีนี้จะต้องมีเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย แต่นี้กลับไม่มีเส้นทางการเงินมาถึงตนเลยสักเส้นเดียว  เพราะฉะนั้นในส่วนของการดำเนินการทั้งหมดนั้นตนจะมาไล่ดำเนินคดีทั้งหมด
     
 ทั้งหมดก็ไม่เกินเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ยังหาคนสั่งการตรวจค้นไม่ได้ เรื่องนี้ใครทำต้องรับผิดชอบ เป็นการดิสเครดิตและทำให้ผมเสียชื่อ เรื่องแบบนี้เจอมาเยอะแล้วและเตรียมตัวรับแรงกระแทกแบบนี้แล้วเช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะออกมาแฉ ถ้าไม่ใช่ความจริงก็จะดำเนินคดีกลับไป 
    
 มีรายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจค้นครั้งได้มีการออกหมายจับตำรวจ 8 นาย โดยจับกุมได้แล้วบางส่วน ซึ่งทั้งหมดเป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สำหรับตำรวจที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. ,2.พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย ผกก.ตม.จันทบุรี ,3.พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รองผบก.สส.ภ.4 ,4. พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ,5. พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา ,6. พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นตต.รองผบ.ตร. ,7. ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. และ8. ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
   
  วันเดียวกัน  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายรูปร่วมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วยข้าราชการที่จะเกษียณอายุในเดือนก.ย.นี้ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยก่อนการประชุมหัวหน้าส่วน ราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2556 ที่ตึกสันติไมตรี ผบ.ตร.ปฏิเสธตอบคำถามกรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ภายในหมู่บ้านย่านวิภาวดีรังสิต กทม. หลังพบมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับพนันออนไลน์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
   
  จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้มีการรายงานเรื่องของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้นายกฯรับทราบหรือไม่ ผบ.ตร.เพียงแต่พยักหน้าตอบเท่านั้น
   
  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังพบมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับพนันออนไลน์ ว่า ตอนนี้ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งจากรายงานยังไม่มีการขยายผล โดยพล.ต.อ.ดํารงศักดิ์อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ แต่เดี๋ยวจะมีการตั้งคณะกรรมการด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นนายกฯ ได้สั่งการอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้สั่งการ เพราะยังสั่งไม่ได้เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ได้มีดำริไว้กับที่ปรึกษาไว้ว่าน่าจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มีบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจร่วมอยู่ด้วย เพราะปัญหานี้มันเรื่องใหญ่มากแล้ว ผูกพันกับหลายๆเรื่อง ทั้งนี้ต้องขอดูข้อมูลอีกที และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชนด้วย
     
เมื่อถามว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวนโยบายในการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน ควบคู่กับการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย พูดด้วย ซึ่งก็ต้องดูด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เมื่อถามว่า จะเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ อาจจะต้องดูความเกี่ยวข้องทั้งหมด เมื่อถามว่า สัปดาห์นี้จะเสร็จหรือไม่ในการเคาะชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามกำหนดการเป็นวันที่ 27 ก.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)