กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.80-36.35 ลุ้นผลประชุมกนง.

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-36.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.03 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 35.63-36.35 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯประเภทอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 17 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% แต่ค่ากลาง Dot Plot ฉบับล่าสุดบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และจะลดดอกเบี้ยลงเพียง 50bp ในปีหน้า แทนที่จะลดลง 100bp เหมือนที่เคยประเมินไว้ในเดือนมิ.ย. ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษและอัตราเงินเฟ้อชะลอลงหลังบีโออีขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 14 ครั้งในวัฏจักรนี้ ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ประกาศคงนโยบายแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษตามเดิม ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 6,606 ล้านบาท และ 5,223 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ของวัฎจักรตามปัจจัยตลาดโลกและความไม่มั่นใจเกี่ยวกับประสิทธิผลของการก่อหนี้ภาครัฐ

โดยภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลดัชนีค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) เดือนส.ค.ของสหรัฐฯ ขณะที่ประธานเฟดกล่าวย้ำว่าจะตัดสินใจด้านนโยบายอย่างระมัดระวังและขึ้นอยู่กับตัวเลขทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เฟดคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และ 1.5% ในปี 67 ส่วนอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 4.1% ในปี 67 และปี 68 ซึ่งเรามองว่าเฟดอาจประเมินเศรษฐกิจในเชิงบวกมากเกินไป พิจารณาจากการครบกำหนดกลับมาชำระหนี้เพื่อการศึกษา เงินออมส่วนเกินที่กำลังหมดลง ความเสี่ยง Government Shutdown ครั้งใหม่และผลจากการหยุดงานประท้วงของสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ ทั้งหมดนี้สนับสนุนมุมมองของเราที่ว่าเฟดน่าจะคงดอกเบี้ยไว้มากกว่าที่จะขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้

สำหรับประเด็นในประเทศ กรุงศรีคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย. ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและภาคส่งออกเผชิญความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ดีเรายอมรับว่ามีความเสี่ยงที่กนง.อาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายหากคณะกรรมการให้น้ำหนักไปที่แนวโน้มขาขึ้นของเงินเฟ้อจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาล