วันที่ 25 ก.ย.66 นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 16 หน่วยงาน “ALRO LAND OF SMILE” ร่วมกับผู้แทนจาก 15 หน่วยงาน โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี ณ อาคารพระมิ่งขวัญ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร) อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวเป็นการร่วมมือระหว่าง 16 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมพัฒนาที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ
โดยทุกหน่วยงานจะร่วมกันทำงาน คือ 1) บูรณาการวางแผนและสนับสนุนการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ ในพื้นที่ยึดคืนตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 สั่ง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 พื้นที่ตามนโยบายรัฐบาลที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพื้นที่อื่นในเขตปฏิรูปที่ดิน 2) ให้เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินมีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นได้อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และเกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินสูงสุด 3) ความร่วมมือในการให้องค์ความรู้และสนับสนุนทางเทคนิควิชาการ ในการวางแผน ออกแบบ และก่อสร้าง เพื่อยกระดับงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดินให้เกิดศักยภาพสูงสุด 4) เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมสวัสดิการสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการ ทำให้ชุมชนมีศักยภาพสามารถพัฒนาไปสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจในอนาคต และการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มพัฒนาอาชีพ ให้มีการต่อยอดการพัฒนาในมิติ 6 ด้าน คือ น้ำ ดิน เกษตร ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม และพลังงานทดแทน รวมไปถึงสนับสนุนกิจกรรมและโครงการที่เป็นประโยชน์กับชุมชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
จากนั้น รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนขาว จำนวน 100,000 ตัว ลูกปลาตะเพียนขาวแรกฟัก จำนวน 3,000,000 ตัว และกุ้งก้ามกราม จำนวน 50,000 ตัว เพื่อเป็นการเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา