เป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่เช้าตรู่! เมื่อแสงตะวันของรุ่งอรุณสาดส่อง ปฎิบัติการ "สายฟ้าแล่บ" ก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตำรวจไซเบอร์ และตำรวจคอมมานโด อาวุธครบมือ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ "บิ๊กโจ๊ก" หรือ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล" รอง ผบ.ตร. เลขที่ 9/147 และ 9/148 ซึ่งตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 60

ปฎิบัติการ "ล้วงคองูเห่า" ในครั้งนี้! เริ่มต้นมาจาก การตรวจค้นปิดล้อมพร้อมกัน 30 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพ ขอนแก่น อุดรธานี และสระบุรี ในคดีพนันออนไลน์ พร้อมหมายจับ 11 ผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหามีทั้ง "พลเรือน" และ"ตำรวจ" โดยมีรายงาน ว่า 2 ในตำรวจที่เกี่ยวข้อง เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ยศ “พล.ต.ต.” และ พนักงานสอบสวน ยศ "พ.ต.อ."  ของ "รอง ผบ.ตร." คนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

"ไม่มีอะไร เป็นการแสดงความจริงใจให้เขาเห็น เพราะทราบว่ามีการออกหมายจับลูกน้องตนไปหลายคน ก็ไม่เป็นไร เมื่อมีหมายจับก็ต้องแสดงความจริงใจ ฉะนั้นในการออกหมายค้นวันนี้ ตนก็เลยนำค้นเอง และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไร ส่วนลูกน้องตนใครถูกออกหมายจับ ก็ต้องไปสู้เอา ซึ่งเรื่องเว็บพนันออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเอตร์ ตนเกี่ยวข้องแค่เรื่องการปราบปรามอย่างเดียว ตนไม่เคยรับเงินพวกนี้อยู่แล้ว"  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกตรวจค้นบ้าน

สำหรับ "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล" รอง ผบ.ตร. เป็นนักเรียน นตท.รุ่นที่ 31 และ นรต.รุ่นที่ 47 เป็นหนึ่งในแคนดิเดตว่าที่ "ผบ.ตร." คนใหม่  เริ่มรับราชการติดยศ "ร.ต.ต." ในตำแหน่ง "รองสารวัตร" ตั้งแต่ 1 ก.พ.2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน ได้ขึ้นเป็น "สารวัตร" และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ก็เลื่อนขั้นเป็น "รองผู้กำกับการ" และปฎิบัติหน้าที่อยู่ 4 ปี 

จากนั้นขยับเป็น "พ.ต.อ." ในตำแหน่ง "ผู้กำกับการ" สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา นาน 4 ปี 1เดือน จึงเลื่อนขั้นเป็น "รองผู้บังคับการ" ตำรวจภูธร จ.สงขลา นอกจากนี้ยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ได้รับสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อยแต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น "พล.ต.ต." ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี

ต่อมา ในปี พ.ศ.2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็น "ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว" และยังทำหน้าที่เป็นนายตำรวจประสานงานใกล้ชิด "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็น "ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง" เมื่อปี พ.ส.2561 ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ "พล.ต.ท." ด้วยวัย เพียง 48 ปี 


กระทั่ง เมื่อ 6 เม.ย.2562 ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และวันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

จากนั้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ได้กลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สบ 9 ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. และเลื่อนขั้นเป็น "พล.ต.อ." รั้งตำแหน่ง "รอง ผบ. ตร."  และเป็น แคนดิเดต "ผบ.ตร." คนใหม่  ในฐานะอาวุโส อันดับ 2 ที่จะมีการแต้งตั้งในวันที่ 27 ก.ย.66 ที่จะถึงนี้

 

#บิ๊กโจ๊ก #สุรเชษฐ์หักพาล #เว็บพนันออนไลน์ #ตำรวจไซเบอร์