วันที่ 23 ก.ย.66 เวลา 08.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ร.ต.อ.สงคราม. สิทธิสร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลรางสาลี่ว่า เกิดเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้าน หมู่ 5 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วงฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจุดรอรับเหตุตำบลบ้านใหม่ และจุดรอรับเหตุตำบลรางสาลี่ จากการตรวจสอบที่บริเวณชายคาบ้าน ซึ่งเป็นโรงจอดรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชราใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกลำคอกับขื่อหลังคาโรงรถ ตรวจสอบหลักฐานทราบชื่อผู้ตาย ชื่อนางเฉลี่ย(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 81 ปี อยู่บ้าน หมู่ 5 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นจากการชันสูตรของแพทย์พบว่า ตามร่างกายของผู้ตายไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย จุดที่พบศพก็ไม่มีร่องรอยการต่อสู้
สอบสวนปากคำลูกและญาติๅ ของผู้ตายทราบว่า เมื่อตอน 04.30 น.ของวันเดียวกันนี้ ลูกๆ และคนในบ้านได้ตื่นนอนตอนเช้าเข้า เกิดไปเจอนางเฉลี่ยผู้เป็นแม่ ใช้เชื่อกไนล่อนสีขาวผูกลำคอกับขื่อหลังคาโรงรถในลักษณะทิ้งตัวจากท้ายรถกระบะห้อยลงมา อารามตกใจคิดว่า แม่ยังไม่เสียชีวิต จึงรีบช่วยกันปลดร่างลงมาก็พบว่า ผู้เป็นแม่หมดลมหายใจแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยประสานตำรวจด้วย
ส่วนสาเหตุคาดว่า คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน นางเฉลี่ย ผู้เป็นแม่ได้เกิดอาการปวดท้องอย่างหนัก จึงได้ไปหาหมอที่ รพ.ฯ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 เพื่อตรวจร่างกาย และหมอนัดได้แม่ให้ไปฟังผลในวันอังคารที่จะถึงนี้ เมื่อกลับจากหาหมอมาถึงบ้าน แม่ก็บ่นว่า ปวดท้อง ปวดจนทนไม่ไหว คาดว่า คงเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่คิดสั้นผูกคอตายดังกล่าว สอบถามบรรดาลูกและญาติๆ ไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการตาย เพราะ เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง จึงมอบร่างให้ลูกและญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป