บุหรี่ไฟฟ้าระบาดหนักใจกลางเมืองประจวบฯ!ผู้ปกครองนักเรียนสุดทนเข้าร้องเรียนฝ่ายปกครองประจวบช่วยแก้ปัญหา หลังลูกขโมยเงินไปซื้ออันละกว่า 600 บาท
วันที่ 22 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน สนธิกำลังบูรณาการ ประสานร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอ ศูนย์ยาเสพติดจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และตำรวจ สภ.เมืองประจวบ เขาจับกุมดำเนินคดีกับนายอภิวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบฯ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งที่เปิดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ที่บริเวณริมถนนเลียบทางรถไฟ ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับด้านหลังโรงเรียนมัธยมชื่อดัง และเทคนิคอาชีวะชื่อดังแห่งหนึ่งกลางใจเมืองประจวบฯ โดยมีการแอบขายให้กับเยาวชนนักเรียนเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อไปถึงจากการตรวจสอบ พบว่าร้านค้าดังกล่าวด้านหน้าลักษณะทำเป็นกระจกทึบ มีประตูปิดเปิดพร้อมป้ายข้อความติดที่บริเวณประตูกระจกระบุว่าเปิดบริการทุกวัน 09.00-21:00 น. โดยทางร้านมีการโฆษณาผ่านทางของเพจ ร้าน ซึ่งในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและสอบสวนเจ้าของร้านก็ได้มีเด็กเยาวชน ประชาชนทั่วไป และ เด็กนักเรียนอาชีวะ เข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีเด็กเยาวชนรายหนึ่งกลับเข้ามาขอคืนสินค้า เนื่องจากผู้ปกครองสั่งให้เอามาคืน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอายัดของกลางจำนวนมากหลายรายการ อาทิ เงินสดของกลางภาพถ่ายเพจร้าน และ QR Code บัญชีรับเงิน และ บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 170 รายการ นำไปทำการบันทึกจับกุมที่ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา กรณีการครอบครองหรือรับไว้ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งการจำหน่ายหรือจัดหาด้วยประการใด ๆ เสนอหรือชักชวนให้มีการขายให้บริการจัดหาด้วยประการใดซึ่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ของวันที่ 28 มกราคม 2558 ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันในพื้นที่เมืองประจวบ และ อำเภอใกล้เคียงพบว่ามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้างธุรกิจร้านค้าดังๆหลายแห่ง นักเรียน นักศึกษา เด็กอาชีวะ รวมไปถึงข้าราชการหน่วยงานหลายสังกัด โดยในขณะนี้มีการระบาดเข้าไปสู่โรงเรียนระดับประถม จนทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลายรายสุดทนเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ช่วยดำเนินการปราบปรามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากบุตรหลานส่วนหนึ่งนำเงินที่ให้มาเป็นค่าขนมโรงเรียนนำไปซื้ออุปกรณ์ในการเสพ และบางส่วนขโมยเงินผู้ปกครองมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีราคาสูงกว่า 600 บาทขึ้นไป โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นข้อสงสัยให้กับอดีตผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดท่านหนึ่ง เมื่อพบเห็นว่ามีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณหน้าสถานศึกษากันอย่างเปิดเผย จึงตั้งข้อสงสัยว่าผู้บริหารสถานศึกษาปล่อยปะละเลยให้นักเรียนมีการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างเปิดเผยแบบนี้เชียวหรือ จึงเป็นห่วงเป็นใยว่าจะกลายเป็นเรื่องที่ชินตา และทำให้เด็กเยาวชนนำไปเป็นแบบอย่าง และเป็นข้ออ้างให้กับเด็กเมื่อระดับผู้ใหญ่ยังเสพได้ เด็กก็เสพได้ ถ้าจะจับเด็กก็ต้องเริ่มจับที่ผู้ใหญ่ก่อน เมื่อทำให้เด็กเห็นเป็นแบบอย่าง
ผู้บริโภคชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือจังหวัดใกล้เคียงสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนมาได้ที่เลขที่ 1/42 – 1/43 หมู่บ้านเตชินี 5 ถนนมหาราช ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77000 โทรศัพท์ 032 908 288/061 436 5554 Line OA : TCC032 Facebook : หน่วยประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามและผิดกฎหมาย และที่สำคัญยังทำลายสุขภาพอย่างรุนแรง ยิ่งกว่าบุหรี่ปกติซะอีก สามารถทำให้ปอดทะลุได้ จึงฝากไปถึงผู้ที่เสพบุหรี่ไฟฟ้าและน้องๆเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ว่าบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยา ผู้ที่เสพผู้ที่ครอบครองเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ค้าจะมีโทษที่รุนแรง ซึ่งในขณะนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนโยบายกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึงนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งในเคสของจังหวัดประจวบ ได้มีการมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มมีการระบาดหนัก จึงได้มีการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างฝ่ายปกครองกับตำรวจ และกอ.รมน.จังหวัด เขาดำเนินการจับกุมปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีการระบาด และเกิดขึ้นในจังหวัดประจวบฯ จึงอยากฝากไปถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนขอให้ร่วมด้วยช่วยกันเมื่อพบเห็นผู้กระทำผิดให้ช่วยมาแจ้งกับฝ่ายปกครอง ถ้าไม่มีผู้บริโภค ไม่มีผู้เสพ ร้านค้าก็ไม่รู้ว่าจะขายใคร สำหรับในส่วนของข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหากกระทำผิดซะเองจะมีโทษทั้งอาญาและวินัย**