วันที่ 22 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แถลงว่า ขอให้รัฐบาลไทยใช้มาตรการทางการฑูตเชิงป้องกันการรุกล้ำทางทหารเมียนมา ข้ามชายแดนไทย และขอให้เพิ่มความร่วมมือกับองค์กรนานาชาติด้านการจัดส่งอาหาร และด้านการรักษาพยาบาล แก่พลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ว่า สืบเนื่องจากการที่ตนได้รับการแจ้งจากประชาชนใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่าเมื่อต้นเดือนก.ย. มีกองกำลังทหารรัฐบาลเมียนมา ราว 60-70 คน ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทยเพื่อทำยุทธวิธีทางการทหาร ตีโอบล้อมทหารกระเหรี่ยงที่อยู่ชายแดนฝั่งเมียนมา และทหารเมียนมายังได้มาตั้งค่ายชั่วคราว เพื่อหุงหาอาหาร สร้างความวิตกหวาดกลัวแก่คนไทยในพื้นที่ การรุกล้ำ และการต่อสู้ระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังต่อต้านตามแนวชายแดนไทย-เมียนมานั้น มีเป็นระยะๆ และยืดเยื้อตลอดมา ซึ่งรัฐบาลไทยที่ผ่านมาที่ ก็ดูจะเห็นอกเห็นใจรัฐบาลทหารเมียนมาชุดนี้ จึงไม่ได้มีมาตรการทางการฑูตเชิงป้องกันไม่ให้เกิดการรุกล้ำชายแดน แต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ที่เป็นรัฐบาลพลเรือนควรดำเนินมาตรการการฑูตเชิงรุกกับรัฐบาลทหารเมียนมา ที่เป็นการป้องกันมิให้มีการรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยของทหารเมียนมาอีก
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า จากการที่ตนได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรนานาชาติที่เป็นกลางทางการเมือง ซึ่งมีวัดถุประสงค์ในการจัดส่งอาหารและการจัดให้มีการรักษาพยาบาลให้แก่ประชาชนเมียนมาที่หนีภัยจากการสู้รบเข้ามายังประเทศไทย
" ผมขอเรียกร้องไปยังนายเศรษฐา และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศให้เพิ่มระดับการให้ความสะดวก และความร่วมมือแก่องค์กรนานาชาติเหล่านั้นให้มากขึ้น ไม่ว่าจะในด้านการอนุญาตก็ดี การขนส่งอาหารก็ดี การรักษาพยาบาลก็ดี เพราะเป็นเรื่องการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม ไม่ใช่ด้านการเมือง หรือการทหาร แม้รัฐบาลทหารเมียนมาอาจมองว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารก็ตาม" นายจุลพงศ์ กล่าว