ท่องเที่ยวฟื้นหนุนยอดจดทะเบียนตั้งใหม่เดือน ส.ค.แตะ 7,424 ราย โตต่อเนื่อง ก่อสร้างอาคาร-อสังหาฯ-ร้านอาหารมาแรง

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตัวเลขยอดการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจใหม่มีจำนวน 7,424 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 0.08% (สิงหาคม 2565) และเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาคิดเป็น 8.41% (กรกฎาคม 2566) แยกเป็นประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 584 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 482 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 360 ราย คิดเป็น 5% ตามลำดับ

ขณะที่ยอดจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวน 2,007 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 3.40% และเพิ่มขึ้น
จากเดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2566) คิดเป็น 7.50% โดยแยกประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 172 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 85 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 49 ราย คิดเป็น 2% ตามลำดับ

ทั้งนี้ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 8 เดือนแรก ปี 2566 
มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 61,558 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา (8 เดือนแรก ปี 2565) คิดเป็น 14.90% ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2566 เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี ของเดือนสิงหาคม (สิงหาคม 2557 – 2566) และสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน (ม.ค. – ส.ค. 66) ส่งผลให้ 8 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุดในรอบ 10 ปี (2557 – 2566)

โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้นยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก สะท้อนจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย 8 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวนการจดจัดตั้งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 60.66% (ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเติบโต 1.89 เท่า ตัวแทนธุรกิจการเดินทางเติบโต 1.41 เท่า, ธุรกิจจัดนำเที่ยวเติบโต 1.03 เท่า, ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารเติบโต 45.46% และ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุดเติบโต 42.86%) มีสัดส่วนคิดเป็น 7.94% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมดใน 8 เดือนแรก ปี 2566 นอกจากนี้ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตกว่า 1 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (8 เดือนแรก ปี 2565) ได้แก่ ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืชเติบโต 2.07 เท่า (เพิ่มขึ้น 118 ราย) จากนโยบายส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก ธุรกิจบริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้างเติบโต 1.70 เท่า (เพิ่มขึ้น 311 ราย)

สำหรับภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวทำให้มีธุรกิจที่รับบริหารจัดการเกี่ยวกับที่พักอาศัย โรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจให้เช่าและให้เช่าแบบลิสซิ่งยานยนต์เติบโต 1.40 เท่า (เพิ่มขึ้น 155 ราย) จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตและภาคธุรกิจที่นิยมการเช่ารถยนต์มากขึ้นและธุรกิจการปลูกพืชประเภทเครื่องเทศเครื่องหอมยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์เติบโต 1.12 เท่า (เพิ่มขึ้น 201 ราย)จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 32,000 – 39,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 79,000 – 86,000 รายเป็นต้น