วันที่ 22 กันยายน 2566 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงภาพรวมการติดตามกิจกรรม Car Free Day โลก โดยกำหนดให้ผู้บริหาร กทม. เดินทางมาทำงานด้วยระบบขนส่งสารสาธารณะ พร้อมไลฟ์สดผ่านระบบออนไลน์เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบถึงความสำคัญของการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว ว่า วันนี้เป็นวันที่ทั่วโลกลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว 1 วัน แต่ กทม.อยากให้ลดการใช้รถยนต์ทุกวัน โดย กทม.มีส่วนในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นผู้ดูแลเส้นทางต่าง ๆ ให้ประชาชน โดยเฉพาะระยะสุดท้ายของการเดินทางก่อนเข้าที่พัก เช่น ทางเท้า ทางม้าลาย ไฟส่องสว่าง เป็นหน้าที่ กทม.เพื่อให้ประชาชนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า การรณรงค์วันนี้ มีแนวคิดให้ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการเขต รองผู้ว่ากทม. ปลัดกทม. รองปลัดกทม. เดินทางมาทำงานโดยรถสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ สิ่งสำคัญคือ หากผู้บริหารเข้าใจปัญหาอุปสรรคการเดินทางจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น จุดน้ำขัง ทางเท้าชำรุด ไฟดับ ความสะดวกในการข้ามทางม้าลาย การเชื่อมโยงรถโดยสารระหว่างจุดต่าง ๆ การให้บริการรถสาธารณะ การใช้ตั๋วโดยสาร และราคาปัจจุบัน เพื่อสร้างความเข้าใจและให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น โดยได้ให้นโยบายว่า อยากให้ใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้น (บ่อยๆ) เพื่อให้ผู้บริหารได้สัมผัสปัญหาที่แท้จริงเพื่อแก้ไขให้ตรงจุดต่อไป

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการติดตามการเดินทางของผู้บริหารกทม.วันนี้พบอุปสรรค คือ ทางเดินเท้า การรอรถเมล์ใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง บางคนจ่ายค่าโดยสารขาไปและกลับกว่า 200 บาท 1 เดือนอาจต้องจ่ายถึง 5,000 บาท ถือว่าสูงหากเทียบกับรายได้ รวมถึง เรื่องการตรงเวลาของรถโดยสารบางชนิด ทำให้ประชาชนรอนาน ซึ่งปัญหาที่พบจะนำมารวบรวมนำมาพัฒนากำหนดนโยบายให้ดีขึ้น วันนี้ถือเป็นการทดสอบระบบรถโดยสารสาธารณะของผู้บริหารกทม.

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า การแก้ไขในระยะต่อไปคือ ปัจจุบันกทม.มีคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกทม.สามารถทำได้ทันที เช่น ทางเท้า น้ำขัง ทางม้าลาย ไฟส่องสว่าง ส่วนเรื่องอื่น ๆ เช่น รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ รถไฟฟ้าและค่าโดยสารต่าง ๆ กทม.สามารถนำเรื่องเข้าสู่คณะทำงานดังกล่าวได้ จะทำให้การแก้ไขติดตามทำได้เร็วขึ้น เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักคือเรื่องรถติด การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว และใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ซึ่งต้องมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ประชาชนจะได้ใช้มากขึ้น เพื่อลดการจราจรติดขัด

 

“วันนี้เดินออกมาจากซอยทองหล่อ (บ้าน) จากปกตินั่งรถมอเตอร์ไซค์ ระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตร มาต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสจากทองหล่อมาอโศกน่าจะประมาณ 20 กว่าบาท ต่อรถไฟฟ้าใต้ดินจากอโศกมาที่สถานีสามยอด แล้วเดินเท้าเข้าศาลาว่าการกทม. รวมค่าโดยสารประมาณ 60 บาท จากนี้จะมีประชุมอีกหลายที่ วางแผนเดินทางด้วยรถไฟฟ้าต่อไป” นายชัชชาติ กล่าว