INET แย้มผลงานไตรมาส 3/2566 ส่งสัญญาณดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 รับอานิสงส์นโยบายภาครัฐขับเคลื่อน Digital Transformation ฟาก“มรกต กุลธรรมโยธิน” แม่ทัพหญิงเผย ปรับบทบาทสู่ Trusted Platform Service Provider มุ่งลงทุนในบริการ Platform ต่างๆ เพื่อต่อยอดการขยายการใช้งานของบริการ Cloud แก่กลุ่มลูกค้าเดิมและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมบุกตลาด Local Platform เพิ่มเติม ล่าสุด เร่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนพึ่งพาต่างประเทศ ร่วมกับแผนบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจดันผลงานปีนี้โตตามเป้า
นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 ก.ย.66) มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2566 ที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 509.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.48 ล้านบาท เนื่องจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจฟื้นตัว อีกทั้งภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการขับเคลื่อนด้าน Digital Transformation ออกมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเข้าสู่ยุค Digital Transformation และปรับเปลี่ยนบทบาทจาก Cloud Service Provider เป็น Trusted Platform Service Provider มุ่งเน้นการลงทุนในบริการ Platform ต่างๆ เพื่อต่อยอดการใช้งานของบริการ Cloud ให้ทั้งลูกค้าเดิมและขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม พร้อมกับมุ่งมั่นบริหารต้นทุน เช่น การทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยีเป็นของตนเอง เพื่อทดแทนเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการสร้างโซลาร์ฟาร์มเพื่อลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้า
“บริษัทฯ คาดว่า ผลงานในไตรมาส 3 ของปีนี้ ยังมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจน ประกอบกับ INET มีการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเอง แทนการใช้เทคโนโลยีของต่างประเทศ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม เฟส 1 จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของศูนย์ Data คาดว่า จะสามารถ COD ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2566 ของบริษัทฯ สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในแง่ QoQ และ YoY และมั่นใจว่า จะสามารถสนับสนุนผลงานโดยรวมในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) มีกำไรสุทธิ 74.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.68 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,000.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 973.56 ล้านบาท