ความเกลียดชัง จิตไม่ปกติ ป่วย ล้วนเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ที่เป็นแรงจูงใจทำให้เกิดคดีฆาตกรรมต่างๆ ในสังคมไทย
ล่าสุด เกิดเหตุสะเทือนขวัญ “พ่อ” ฆ่าลูกน้อยวัยเพียง 2 ขวบเสียชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายร่างเด็กไปฝังอำพราง ด้วยการโบกปูนในบ้านพักที่ จ.กำแพงเพชร ก่อนสารภาพหมดเปลือก ฆ่าลูก อีก 4 คน รวมเป็น 5 ศพ
วันนี้ “สยามรัฐออนไลน์” ขอย้อนคดีดัง ที่เกิดจากการฆ่ากรรมอำพรางของพ่อ แม่ จะมีคดีอะไรบ้างไปดูกัน
คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 เป็นคดี “แม่” ฆ่าลูก เพื่อบูชาพระอินทร์ตามความเชื่อ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างเด็กหญิงวัย 12 ขวบ นอนจมกองเลือด ที่ลำคอมีบาดแผลจากของมีคมปาดซ้ำไปมาหลายครั้ง จนหลอดลมขาดและพบมีดอีโต้เปื้อนเลือดใกล้ศพ โดยข้างๆมีโต๊ะที่มีกะละมังใส่น้ำที่แช่เส้นผมจำนวนหนึ่ง ดูคล้ายกับว่าเป็นพิธีทางไสยศาสตร์ ซึ่งผู้ต้องหาไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็นญาติของเด็กทั้งหมด 4 คน และผลการตรวจสภาพจิตของผู้ลงมือก่อเหตุพบ มีอาการป่วยทางประสาทและเชื่อว่าพวกตนเป็นร่างทรงของพระอินทร์ พระอาทิตย์ และพระจันทร์ จึงได้ได้ฆ่าเด็ก เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณให้ไปอยู่กับพระอินทร์
คดีที่สอง เป็นคดีสะเทือนขวัญ คือ นายภาสพล รัตนยาธิคุณ หรือ เสี่ยตุ้ม อายุ 48 ปี นักธุรกิจหนุ่มนักเรียนนอก ทายาทธุรกิจโรงพิมพ์ขนาดใหญ่ถูกคนร้ายอุ้มมายิงทิ้ง ก่อนนำศพฝังดินอำพรางคดี บริเวณถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย ต.แก้งกระอาม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.59 กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุและเป็นผู้บงการคือ บิดา เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกชายทวงเงินส่วนต่างจากการขายที่ดินในการทำธุรกิจ
และคดีสุดท้าย เป็นอีกหนึ่งสุดยอดคดีฆาตรกรรม ของ คดีหมอผัสพร แพทย์หญิงโรงพยาบาลรถไฟ ได้หายตัวไปนานเดือนกว่า จึงนำไปสู่การสืบสวนสอบสวน น.พ.วิสุทธ์ บุญเกษมสันติ ผู้ซึ่งเป็นสามี โดยทางสามีให้การปฎิเสธมาโดยตลอด แต่เมื่อทีมสืบสวนเจ้าห้าที่ได้เข้าตรวจค้นอาคารวิทยนิเวศน์ บาปบุญคือ เจอหลักฐาน อย่าง คราบเลือดและเส้นผม ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ที่พบในบ่อพักน้ำเสียของอาคาร พบการตรวจ DNA ของหมอผัสพร สอดคล้องกับพยานที่เห็น น.พ.วิสุทธิ์ อยู่กับหมอผัสพรเป็นคนสุดท้าย ซึ่งยังได้พบอีกว่ามีเรื่องของการมีปัญหาขัดแย้ง ฟ้องหย่า จึงเชื่อว่าเป็นมูลเหตุการจูงใจในการก่อเหตุ