วันที่ 20 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในเรื่องเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านและตำแหน่งรองประธานสภาฯ ของพรรคก้าวไกล  ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเลือกตำแหน่งใด ว่า คิดว่าเรื่องนี้ยังมีเวลา รออีกประมาณอาทิตย์กว่าๆ คิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ว่าตำแหน่งไหน แต่สำคัญที่สุดคือพรรคก้าวไกลจะมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นใคร และหัวหน้าพรรคเป็นใคร และจากนั้นให้เวลากรรมการบริหารพรรคในการพิจารณา ถ้าเราได้คณะกรรมการบริหารในวันที่ 23 ก.ย. ตนคิดว่ากว่าคณะกรรมการบริหารจะพิจารณาเรื่องต่างๆ และคงไม่ได้มีแต่เรื่องของตน  ไม่ได้มีแต่เรื่องสภา แต่มีสารพัดเรื่องของพรรคก้าวไกลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างไร และมีวาระใดบ้างที่ต่างจากยุคการนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะกรรมการบริหารชุดเก่า ซึ่งตนคิดว่าเราก็มีเวลาอีกสัก 2-3 วัน ในการหารือกัน และคิดว่าพรรคก้าวไกลคงตัดสินใจอย่างดีที่สุดตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งตนก็จะรอวันที่เราได้หารือกันในช่วงนั้น

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวจะใช้วิธีการขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรค หากไม่คืนเก้าอี้รองประธานสภา นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า "ผมขับตัวเองไม่ได้ ข้อเท็จจริงคือเป็นหนึ่งในออปชั่น ตอนนี้เรามีหลายออปชั่น ไม่ได้มีแค่ทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง เรามีหลายทางเลือก เพราะว่ามันเป็นทางเลือกที่หนึ่งจะทำอย่างไรจึงจะสามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ สองทำอย่างไรภายใต้เงื่อนไข กติกาที่มันปรากฏ เพราะฉะนั้นไม่ได้มีแค่ทางเลือกเดียว เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เป็นไปได้"