วันที่ 20 ก.ย. 66 ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกรณีการผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง และ “แลนด์บริดจ์” หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) ว่า พรรคภูมิใจไทย ยังยืนยันที่จะติดตามและผลักดันพ.ร.บ.กัญชา กัญชง เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลว่า กัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรี นันทนาการหรือสันทนาการ แม้จะมีการโจมตีและด้อยค่านโยบายกัญชาที่ทำให้ถูกตีตกไปในสมัยรัฐบาลที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า เราจะผลักดันพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสมัยนี้ต่อไป โดยจะเป็นไปตามร่างเดิม 94 มาตรา ที่เคยได้มีความเห็นจากทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อีกทั้ง ยังเห็นตรงกันกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ในรัฐบาลสมัยนี้ด้วย
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลวิจัยชี้ว่าเมื่อกัญชาถูกปลดล็อกจากยาเสพติดแล้ว มูลค่าของตลาดกัญชาเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับภาคเอกชน เท่าที่ตนได้ทำการสำรวจมามี 21 บริษัทที่ลงทุนไปแล้วในกัญชา แต่ส่วนของกัญชงที่เป็นตลาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะในฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสกัดสาร CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแทบจะไม่มีสาร THC อยู่เลยนั้น
“วันนี้ไม่มีโรงงานใดที่สามารถผลิตสาร THC ได้เลยแม้แต่โรงงานเดียว เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้เปิด เว้นแต่จะทำร่วมกับภาครัฐ โดยเราได้แยกกัญชงออก เพื่อไม่ให้มีการสกัดสาร THC เกิน 0.02% เป็นจุดแข็งที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีความรอบคอบพอ ที่จะควบคุมการออกกฎหมาย และไม่ทำให้กัญชาหลุดพ้นออกไปจนเกิดปัญหา” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวย้ำว่า เราจะขับเคลื่อนพ.ร.บ.กัญชา กัญชงต่อไป ตามที่เราบอกว่า ภูมิใจไทยไม่ได้ร่างกฎหมายแล้วทิ้งขว้าง ทิ้งกลางคัน มาจับขั้วใหม่ แล้วไม่กลับไปเหลียวแลพ.ร.บ.ที่ทำไม่สำเร็จ “พูดแล้วทำ” เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ของพรรคภูมิใจไทย เราจะทำอย่างจริงจัง เราจะผลักดันให้สำเร็จ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
นายสฤษฏ์พงษ์ ยังกล่าวโครงการแลนด์บริดจ์ด้วยว่า สืบเนื่องจากการที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จะไม่สานต่อโครงการนี้นั้น ตนจึงอยากขอความกรุณาจากนายสุริยะ ให้มีการทบทวน พิจารณาไตร่ตรองเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากตนเห็นว่าอาจจะเป็นการสูญเสียผลประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ เพราะมีความเชื่อมโยงในหลายๆโครงการ ทั้งการเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด การขยายท่าเทียบเรือ การตัดถนนมอเตอร์เวย์ รวมถึงรถไฟเพื่อบรรทุกสินค้าสั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะจ.ชุมพร หรือจ.ระนองเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานราก ที่จะก่อให้เกิดรายได้ทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย
“เรารู้สึกเสียดาย ถ้าอยู่ๆ สุริยะจะยกเลิกไป อยากให้มองเห็นความสำเร็จเป็นเป้าหมายของรัฐบาล ไม่อยากให้มองเห็นเป็นอุปสรรคของเป้าหมายรัฐบาลที่จะมีตัดสินตามคำแถลงการณ์ของนายกฯ ก็บอกว่า รัฐบาลชุดนี้จะต้องทำได้ ไม่มีเหตุผลปฏิเสธว่าทำไม่ได้ หากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประโยชน์ของประชาชน ไม่อยากให้มีข่าวออกไปว่า รัฐบาลลดโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อชดเชยในนโยบายบางเรื่องแทน” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว