วันที่ 20 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๓๕) พ.ศ. ๒๕๖๖ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป

ข้อ๒ ให้ยกเลิกความใน (๑) และ (๒) ในประเภทที่ ๐๑.๐๕ น้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆที่คล้ายกัน ตอนที่ ๑สินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาสรรพสามิต(ฉบับที่ 34) พ.ศ. ๒๕๖๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (๕) (๕/๑) (๕/๒) (๕/๓) (๕/๔) และ (๕/๕) ในประเภทที่ ๐๑.๐๕ น้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกัน ตอนที่ ๑ สินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน

ตามบัญชี ท้ายกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ๓๔ ) พ.ศ. ๒๕๖๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

เหตุผล ในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่น้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคการผลิต และภาคการขนส่งในแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนในภาคธุรกิจที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ สมควรลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

ทั้งนี้ กรณีนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามเหลือต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร ด้วยการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร(สัดส่วนไบโอดีเซล0.005-4%) เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มต้นแต่วันที่ 20 กันยายน – 31 ธันวาคม 2566

โดยน้ำมันดีเซลเดิมมีสัดส่วนไบโอดีเซล7% หรือ บี7 ทำให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร ได้ลดภาษีสรรพสามิตลง 2.32 บาท จะเหลือจัดเก็บที่ 3.67 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตามอัตราภาษีที่ลดลงดังกล่าวจะนำมาลดราคาดีเซลลง 2 บาท จาก 31.94 บาทต่อลิตร เหลือ 29.94 บาทต่อลิตร ราคานี้ไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นไป ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ส่วนอีก 0.32 บาทต่อลิตรจะส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งปัจจุบันอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 8.98 บาทต่อลิตร

ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 17 กันยายน 2566 ติดลบอยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แบ่งเป็น น้ำมันติดลบ16,902 ล้านบาท แอลพีจีติดลบ 44,739 ล้านบาท