วันที่ 20 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมวิปรัฐบาลว่า เราจะประชุมวิปรัฐบาลทุกวันจันทร์เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภาเป็นหลัก แต่ไม่ปฏิเสธที่จะไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เผื่อนายกรัฐมนตรี มีเจตนาที่อยากเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อทราบความเคลื่อนไหวการทำงานในรัฐสภา ซึ่งในการประชุมครั้งแรกได้รับความร่วมมือจาก 11 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างดี เราเน้นการทำงานที่อยากจะให้มีการประสานงานกัน เพื่อให้การประชุมราบรื่น และในเรื่ององค์ประชุมซึ่งแต่ละพรรคการเมืองจะไปรับผิดชอบให้สมาชิกมาประชุมเพื่อไม่ให้การประชุมสภาฯ ล่ม
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในข้อบังคับข้อที่ 12 จะมีคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างละ 5 คน ซึ่งขณะนี้เรามีฝ่ายรัฐบาลแล้วแต่ต้องรอฝ่ายค้าน เพื่อให้มีวิปทั้งสองฝ่ายมาประชุมหารือกันในการประสานงานการประชุมสภาฯ เพื่อให้ระเบียบวาระ หรือกระทู้ถามสด และกระทู้ต่างๆ ให้เป็นไปตามครรลองข้อบังคับ
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถจัดการเรื่ององค์ประชุมไม่ให้มีองค์ประชุมล่มได้ นายอดิศร กล่าวว่า เป็นหมัดเมา เราไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถือว่าเป็นบทเรียนและหน้าที่องค์ประชุมก็เป็นทุกคน เพราะตอนที่ทุกคนลงพื้นที่หาเสียงก็บอกประชาชนว่าจะมาประชุมสภาฯ แต่เรื่องการนับองค์ประชุมก็เป็นเรื่องธรรมดา ของสมาชิกที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่เขาจะใช้อาวุธนับองค์ประชุมก็ดี วอล์กเอาท์ก็ดี เป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้กับรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ซึ่งหากรัฐบาลรับผิดชอบเรื่ององค์ประชุม และทุกคนมาประชุมจะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมล่มแน่นอน
เมื่อถามว่า รัฐบาลตั้งกลับอย่างไรกับฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอดิศร กล่าวว่า ทั้ง 2 พรรคที่เอ่ยชื่อมามีประสบการณ์ทั้งคู่ โดยเฉพาะพรรค ปชป. ที่เป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล และท่านเห็นเหมาะสมในการชักอาวุธในการนับองค์ประชุม หรือวอล์กเอาท์เมื่อไหร่ ไม่ใช่นับองค์ประชุมทุกญัตติ ซึ่งจะทำให้การประชุมไม่ราบรื่น ทั้งนี้หวังว่าจะได้รับความร่วมมือกับวิปทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อถามว่า มองว่าผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายอดิศร กล่าวว่า ด้วยความเคารพตนไม่ขอออกความเห็น แต่ยินดีที่จะมีผู้นำฝ่ายค้านฯ ใครก็ได้มาทำให้องค์ประกอบของผู้นำฝ่ายค้านฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ขับเคลื่อนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีความสง่างามต่อไป และขออนุญาตแสดงความยินดีล่วงหน้าใครก็ได้
เมื่อถามว่า เสียดายนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ก.ก. หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า "คุณพิธาเป็นน้องผม แต่การเมืองเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เป็นเรื่องธรรมดาเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป"
เมื่อถามว่า ได้มีการประสานกฎหมายที่จะเข้าสภาฯ กับรัฐบาลบ้างแล้วหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ทางรัฐบาลมีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นคนประสาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอ มีเพียงร่างกฎหมายที่ส.ส.เสนอเท่านั้น ซึ่งวิปรัฐบาลได้แจ้งไปยังรัฐบาลให้เร่งรัดว่าขอให้พิจารณาเสนอร่างกฎหมายที่เป็นนโยบายของรัฐบาลเสนอให้สภาฯพิจารณา อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ก่อนหน้านั้นถือว่าตกไปทั้งหมดแล้ว เพราะรัฐบาลไม่ยืนยันภายในกรอบเวลา 60 วัน ซึ่งวิปรัฐบาลพยายามส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลเช่นกัน
เมื่อถามถึง ข้อกังวลต่อความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อการตอบกระทู้ของสภาฯ นายอดิศร กล่าวว่า โดยเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีจะมาชี้แจงกระทู้ถามสด รวมถึงกระทู้ถามทั่วไปของสภาฯ เพราะเวทีการชี้แจงในสภาฯ นั้น เป็นจุดวัดผลงานของรัฐมนตรี ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น ตนเชื่อว่าจะมาชี้แจงต่อสภาฯ เช่นกัน เพราะนายเศรษฐาเคยระบุว่าอยากมาสภาฯ เพื่อมาตอบกระทู้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่สภาฯ และตนเชื่อว่าไม่มีปัญหา
“ผมอยากเป็นความสง่างามของนายกฯ และรัฐมนตรีมาตอบกระทู้สด ไม่อยากให้มอบหมาย เพราะศักยภาพของรัฐมนตรีแสดงออกในการตอบกระทู้ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือ” นายอดิศร กล่าว