ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำผู้การ 8 จังหวัดสรุปผลลการกวาดล้างอาชญากรรม ตามแผนยุทการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ผลพวงคดีกำนันนกผู้ต้องหาคดียิงสารวัตรแบงก์ ตำรวจทางหลวงนครปฐม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1.2 พันราย ของกลางปืน ยาเสพติดมหาศาล 


วันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 เวลา 15.30 น. ที่หน้าอาคารที่ทำการ ภ.7 ถนนข้างวัง ตำบลพระปฐมเจดีย์อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐมตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผทค.พิเศษ ตร.  รรท.รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สิทธิชัย  โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อาทิชา  เปาอินทร์  รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์  รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กฤษณะ  สุขสมบูรณ์ ผบก.อก.ภ.7, พล.ต.ต.ปรีดา  อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7,   พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ภ.7 และ บก.สส.ภ.7   เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ภายใต้แผนยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล”  ระหว่างวันที่ 12 – 18 กันยายน 2566 (7 วัน) โดยมีเป้าหมายเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม  วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย (On Ground) และการจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนผ่านระบบออนไลน์และโซเชียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย (Online) ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ

โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า ในการเปิดยุทการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง แลละอาสากู้ชีพทั้ง 8 จังหวัด สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด 1,258 ราย ผู้ต้องหา 1,275 คน แบ่งเป็น
        1. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน  จับกุม  221 ราย ผู้ต้องหา 221  คน  
        2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด   จับกุม  625 ราย ผู้ต้องหา 630  คน
    3. ความผิดเกี่ยวกับการพนัน   จับกุม    51 ราย ผู้ต้องหา 63  คน 
      4. ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จับกุม  174 ราย ผู้ต้องหา  174  คน        
    5. ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ   จับกุม    5 ราย ผู้ต้องหา   5 คน
    6. จับกุมบุคคลตามหมายจับ จับกุม 182  หมาย ผู้ต้องหา 182 คน  

พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
   1. อาวุธปืน จำนวน 172  กระบอก แบ่งเป็น
อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 52 กระบอก
อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 120 กระบอก      
   2. เครื่องกระสุนปืน จำนวน  2,156 นัด                
   3. วัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) จำนวน 22 ลูก
   4. ยาบ้า จำนวน 13,667 เม็ด        
   5. ไอซ์ จำนวน   21.37 กรัม
   6. เฮโรอิน จำนวน 14.58 กรัม    
   7. ยาเค จำนวน    7.42 กรัม


 ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 7 ขอให้คามมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าตำรวจภูธรภาค 7 จะมุ่งมั่นทำงานตามวิสัยทัศน์ของ ผบช.ภ.7 ที่ว่า             “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” โดยจะทำการปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาล รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรลุวัตถุประสงค์สูงสุดต่อไป