วันที่ 19 กันยายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทย  นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเองดูหลายเรื่องตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องกฎหมาย และอื่นๆ ที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่เคยแถลงเอาไว้ต่อรัฐสภา

เมื่อถามว่า เรื่องรัฐธรรมนูญจะแก้ไขหรือร่างขึ้นมาใหม่นั้น นายพิชิต กล่าวว่า จะมาหารือกันวันนี้ โดยเบื้องต้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ตั้งคณะกรรมการ ซึ่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้มาปรึกษารูปแบบ และวิธีการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคช่วงหาเสียง ส่วนตนเองจะอยู่ในคณะกรรมการหรือไม่นั้น ก็กำลังหารือกัน

นายพิชิต กล่าวต่อว่า วันนี้คงพูดคุยกันในหลายประเด็น โดยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีประเด็นทั้งการแก้รายมาตราและแก้ทั้งฉบับ จึงต้องพูดคุยกันหลายประเด็น แต่จะทำให้การแก้ไขธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด และจะทำให้สำเร็จในสมัยรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการการคลัง ให้ได้

เมื่อถามว่า แนวทางการแก้ไขหรือการร่างธรรมนูญใหม่ นายพิชิต กล่าวว่า ก็ต้องพูดคุยกันเพราะอะไรที่แก้ไขแล้วเป็นประโยชน์พี่น้องประชาชนให้มีความรู้สึกว่าไม่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ถ้าทำได้ก็น่าทำ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับมีกรอบวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยเอาไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไร การแก้ไขก็ต้องทำให้สำเร็จ และการแก้ไขในหมวด 1 หมวด 2 นั้น เราจะทำได้หรือไม่ เพียงใด และจะทำให้ร่างแก้ไขผ่านวาระแรกได้หรือไม่ จึงต้องมีการพิจารณาหลายทาง ตอนนี้มีหลักคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่บ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่แถลงนโยบายไว้ เพื่อมอบเป็นของขวัญกับประชาชนทั้งประเทศ

“ตอนนี้ยังยืนยันอะไรไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และไม่แตะเรื่องพระราชอำนาจ ซึ่งการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม โดยส่วนตัวคิดว่าจะต้องทำให้หลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายให้มากที่สุด โจทย์ของเราคือความสำเร็จ” นายพิชิต กล่าว

เมื่อถามถึง คดีถุงขนม 2 ล้าน ที่กำลังถูกสังคมตั้งคำถาม มีความมั่นใจหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนทราบว่ากฤษฎีกาไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของการเป็นรัฐมนตรี ตอนนี้ตนไม่ยึดติดตำแหน่ง เพราะเป็นคนทำงาน ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ตอนนี้เขาให้โอกาสตน ตนก็จะทำงานให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชนให้มากที่สุดด้านส่วนกฎหมาย อยากจะทำให้เกิดความเป็นธรรม สร้างกระบวนการหลักนิติธรรมให้เกิดกับประเทศชาติ และประชาชนให้มากที่สุด ยืนยันว่าไม่มีอะไร

“ผมจิตไม่ตก จะดีหรือชั่วก็อยู่ที่ตัวเอง และให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย โดยวันนี้ได้มอบหมายให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ไปฟ้อง ยืนยันว่าผมไม่ได้โกรธแค้นแต่อย่างใด เพียงแค่อยากให้สังคมรับรู้ หากมีการล่วงเกินกันเกินไป ผมจึงก็ต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย” นายพิชิต กล่าว