เมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 ที่ผ่านมา สภากรุงเทพมหานคร ได้เปิดเวทีประชุมร่วมกับองค์กรสำคัญในกรุงเทพมหานคร 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย  การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม.รวมถึงหน่วยงานในสังกัดกทม.เพื่อแลกเปลี่ยนรับฟังเสียงสะท้อน เป็นการเปิดมิติใหม่ในการบูรณาการแก้ปัญหาในพื้นที่ร่วมกัน

นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การประชุมหารือร่วมกันครั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนกรุงเทพฯ ในส่วนการทำงานของสมาชิกสภากทม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสามัญเพื่อดูแลประชาชน 12 คณะ และบางคณะก็มีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภายนอก รวมถึงกฎหมายการบริหารราชการกทม.เพื่อให้สภากทม.ได้ออกข้อบัญญัติบางข้อก็ไม่ได้เอื้อให้สภากทม.สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ในวันนี้ถือเป็นการทำงานในมิติใหม่ของเรา ที่ได้รับฟังเสียงสะท้อนจาก 5 หน่วยงาน และหน่วยงานกทม.ที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาสภากทม.โดยสมาชิกสภากทม.ทั้ง 50 ท่าน ได้เป็นสื่อกลางในการสะท้อนปัญหาจากประชาชนในการแก้ไข แต่ภารกิจยังไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นหลักในการหารือ คือ แนวทางการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านสาธารณูปโภคในพื้นที่กรุงเทพฯโดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้อง 4 ประเด็น ดังนี้ 1.ประเด็นด้านการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) การขุดวางท่อน้ำประปา ผลกระทบจากการก่อสร้าง การคืนพื้นที่ให้กรุงเทพฯ 2.ประเด็นด้านการจราจร เช่น ปัญหาควันดำจากยานพาหนะ ปัญหารถสวนเลน จุดกลับรถ สัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ 3.ประเด็นด้านการบริการ เช่า การบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่าง หลอดไฟในชุมชน 4.ประเด็นด้านการสื่อสาร เช่น การติดตั้งสายสื่อสารโทรคมนาคม

สำหรับข้อคิดเห็นของผู้แทนหน่วยงาน ทั้ง 5 ที่ได้ร่วมถกหารือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนดังนี้ ผู้แทนรฟม. กล่าวว่า ภารกิจปัจจุบันของรฟม.คือการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน- ราษฎร์บูรณะ โดยรฟม.มีแผนการจัดการจราจร โดยประสานบช.น.และสน.ท้องที่ให้รับทราบเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เป็นต้น โดยทุกโครงการจะประสานเพื่อใช้ผู้รับจ้างเดียวกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปครั้งเดียว มีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการรื้อถอน นอกจากนี้รฟม.ยังมีการจัดอบรมอาสาจราจร ลดผลกระทบด้านการจราจร

ส่วนใประเด็นที่สมาชิกสภากทม.สอบถามถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างล่วงหน้าเป็นเวลานาน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหากับผู้ที่สัญจรไปมาไม่ได้รับความสะดวก การส่งมอบพื้นที่ก่อนและหลังดำเนินการ ว่า การปิดกั้นพื้นที่ยังคงมีความจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุแต่จะได้กำชับให้ปิดกั้นพื้นที่ให้เหมาะสมกับช่วงระยะเวลาการก่อสร้างจริง คาดว่างานก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.67 การคืนผิวจราจร

ด้านผู้แทนกปน. กล่าวถึงปัญหาการขุดท่อน้ำทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก ว่า มีแนวทางการในการแก้ปัญหาร่วมกับกทม.โดยจะเปลี่ยนฝาบ่อเป็นขนาดไม่เกิน 4 แผ่นต่อบ่อ และจะเก็บงานให้เรียบร้อย รวมถึงให้ผู้รับจ้างปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเข้มงวด สำหรับบริษัทที่รับช่วงงานทำงานจะกวดขันบริษัทให้ทำงานให้เรียบร้อย และวางแผนก่อสร้างร่วมกับหน่วยงานเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ในคราวเดียว

ทั้งนี้ สมาชิกสภากทม.ได้ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่เข้าไปร่วมเป็นกรรมการตรวจรับงานของกปน.ด้วย เนื่องจากหากเขตทราบขั้นตอนการทำงานจะทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ทำให้ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นจะสอดคล้องกับคุณภาพความปลอดภัย และขอให้กปน.เร่งสำรวจและทดสอบประปาหัวแดงให้ครบทุกจุด เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดเพลิงไหม้  ซึ่งทางกปน.ยินดีที่จะทำงานไปพร้อมกับหน่วยงานอื่น

ขณะที่ผู้แทนกองบังคับการตำรวจจราจร ชี้แจงภาพรวมการทำงานว่า ปัญหาการขับขี่บนทางเท้าในพื้นที่กทม.จะมีโทษปรับ ซึ่งทางเทศกิจของกทม.เป็นผู้ดูแล เมื่อทางตำรวจได้รับทราบเหตุในพื้นที่ที่มีการร้องเรียนมากจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปทำภารกิจอื่นก็จะมีผู้กระทำผิดอีก จึงเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผลต้องเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของการบังคับให้ชำระค่าปรับตามใบสั่ง จะทำให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัว จึงขอให้มีการพัฒนาใช้กล้องวงจรปิดที่สามารถออกใบสั่งได้ทันที เพื่อให้การทำงานเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้าย ผู้แทนกสทช. และกฟน. ร่วม ชี้แจงปัญหาการจัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรัง ว่า ปัญหาสายที่รกรุงรังไม่ใช่สายไฟฟ้า แต่ทั้งหมดเป็นสายสื่อสาร ในส่วนของกฟน.อยู่ระหว่างการรื้อถอนเสาไฟฟ้าและนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน ช่วงถนนพหลโยธินเพื่อให้พื้นที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำงาน ทั้งนี้ ผู้แทนกสทช.ได้ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียนปัญหาสายสื่อสาร กรณีพบสื่อสารชำรุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เมื่อได้รับการแจ้งกสทช.จะเข้าแก้ไขทันที หรือเมื่อพบสายสื่อสารขาดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ จะแก้ไขภายใน 5 วัน หรือเมื่อพบสายสื่อสารห้อยตกลงมาโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน กรณีที่ทราบหน่วยงานเจ้าของสายจะสามารถประสานให้แก้ไขได้โดยเร็ว แต่หากไม่ทราบจำเป็นต้องใช้เวลาในการแจ้ง โดยหากพบสายสื่อสารที่เสียหาย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1200 ทั้งนี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมเสนอ แนวทางการแก้ปัญหาในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงการแก้ไขปัญหาช่องทางการติดต่อ เพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น