รองอธิบดีกรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดอุบลราชธานี 

รองอธิบดีกรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี – มูล ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ไว้ด้วย

นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี นายเศรษฐพงศ์ ภิงคารวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร เขื่อนปากมูล และที่บริเวณสะพานโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หลังจากมีปริมาณฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล ในปริมาณที่มาก จึงต้องบริหารอย่างเป็นระบบ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชนในพื้นที่ได้ พร้อมขอให้ประชาชนที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล-ชี ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

นายเศรษฐพงศ์ ภิงคารวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษาเปิดเผยว่า จาการลงพื้นที่พบว่า ปริมาณน้ำที่สถานนีวัดน้ำเอ็ม 7 อยู่ที่ 111.57 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง มีอัตราการไหลอยู่ที่ 2,085 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และได้ปักธงสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการเตรียมเตือนภัย ส่วนที่สะพานพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร ที่เป็นจุดของแก่งสะพือ จะเห็นได้ว่าปริมาณที่ไหลมาจากสถานีเอ็ม 7 ลำโดมใหญ่  ควรจะไหลผ่านบริเวณนี้จำนวน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ แต่ขณะนี้มีปริมาณไหลผ่านเพียง 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ แสดงให้เห็นว่ายังคงมีปริมาณค้างอยู่ จำนวน 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ สำหรับที่บริเวณสะพานอำเภอโขงเจียมซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำมูลไหลลงแม่น้ำโขง พบว่ามีปริมาณน้ำโขงหนุนแม่น้ำมูลก็ตาม แต่อัตราการไหลยังคงระบายน้ำเป็นไปด้วยดี พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังสำนักงานชลประทานที่ 8 และเขื่อนราษีไศล ให้ช่วยกันหน่วงน้ำในช่วงนี้ด้วย

ส่วนการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 100 เครื่อง สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ขนย้ายอุปกรณ์ไปไว้ที่สะพานพิบูลมังสาหารแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม แต่จะติดตั้งหรือไหม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดอุบลราชธานี เป็นคนตัดสินใจ