Benedict
เมื่อปีที่แล้ว อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของแพลตฟอร์ม X หรือ Twitter รวมถึงแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า Tesla และเครือข่ายดาวเทียม Starlink ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นไต้หวันว่าความตึงเครียดจะผ่อนคลายลงได้เมื่อฝ่ายแรกยอมให้ฝ่ายหลังปกครอง
“คำแนะนำของผมก็คือ ไต้หวันอยู่ภายใต้การปกครองแบบพิเศษซึ่งจะสมเหตุสมผลที่สุด แต่ก็อย่างว่า...แผนนี้ไม่อาจทำให้ทุกฝ่ายมีความสุขได้” หัวเรือใหญ่ Tesla ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ Financial Times ซึ่งเผยแพร่ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมกับชี้ว่าการปกครองไต้หวันจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าฮ่องกง
ล่าสุด อีลอน มัสก์ กล่าวถึงไต้หวันในการประชุม All-in Summit ซึ่งจัดขึ้นที่นครลอสแอนเจลิสสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้เปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนว่ามีลักษณะคล้ายรัฐฮาวายกับสหรัฐอเมริกา
“นโยบาย (ของจีน) คือการพยายามรวมไต้หวันเข้ากับจีน” มัสก์กล่าว “หากมองจากจุดยืนของพวกเขา บางทีมันอาจจะคล้ายคลึงกับกรณีฮาวายหรืออะไรทำนองนั้น เหมือน (ไต้หวัน) เป็นส่วนสำคัญของจีน แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน”
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โจเซฟ วู รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน ได้ออกมาโต้กลับโดยระบุว่า ไต้หวันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน และ ‘ไม่ได้มีไว้ขาย’
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตสหรัฐฯ จำนวนมากเห็นด้วยกับคำพูดของมัสก์ “ผมคิดว่าเขาพูดถูก จีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือไต้หวันอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ มีอำนาจอธิปไตยเหนือฮาวาย”(I think he’s right.China certainly has as much claim to Taiwan as the US had to Hawaii.)
“ไม่เกี่ยวอะไรกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อีลอน มัสก์ไม่ได้พูดอะไรแปลก ๆ เขาใช้ตัวอย่างที่เป็นประโยชน์ในการอธิบายความเป็นจริงของสถานการณ์ ไม่จำเป็นต้องเอาทุกอย่างโยงกับการเมือง.”(It has nothing to do with U.S. interests. Elon Musk has not said anything outlandish, he has used an example that is useful to explain the reality of the situation. Not everything has to bepolicitized.)
จีนยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีจีนเพียงแห่งเดียวในโลกและไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีนล้วนๆ และเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน การแก้ปัญหาไต้หวันถือเป็นเรื่องของคนจีนเองและไม่อนุญาตให้ผู้อื่นก้าวก่าย