หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...

 “นายกฯเศรษฐา” ยกคณะรัฐมนตรี แม้จะไม่ทั้งหมดของครม. แต่ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว พากันลุยตรวจราชการที่จังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นจะบินไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78  ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 18 – 24 ก.ย.นี้ เรียกว่า “นายกฯคนใหม่” เดินสายลุยทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย แต่ถึงกระนั้นจะ “ได้ใจ” ของประชาชน หรือไม่ ต้องรอพิสูจน์ จาก “ผลงาน” ของรัฐบาล และ “สารพัดปัญหา” ที่รออยู่ข้างหน้า ...*...

“รัฐบาลใหม่” และ “นายกฯเศรษฐา”  ประกาศความพร้อมในเรื่องของการทำงาน ว่าไม่ต้องมีช่วงของการฮันนีมูน เพราะปัญหาของประเทศมีมาก แต่หนึ่งในหลายภารกิจในมือของ “นายกฯเศรษฐา” ยังเชื่อมโยงกับเรื่องราวทางการเมือง และที่สำคัญมาจากการเป็น “แคนดิเดตนายกฯ”  จาก “พรรคเพื่อไทย” ด้วยเหตุนี้ “ความสำเร็จ”  ของ “นายกฯเศรษฐา” จึงผูกโยงเอาไว้กับ “กระแสความนิยม” และ “ศรัทธา” จากพี่น้องประชาชน ที่จะต้องถูกเรียกกลับคืนมาจากนี้เช่นกัน ...*...

ขณะที่แนวโน้ม “หุ้นการเมือง” อย่าง “พรรคเพื่อไทย” กำลัง “มีความหวัง” โอกาสเป็นบวกเริ่มเด่นชัดหลังจากที่เคยถูกถล่มจาก “ด้อมส้ม” อย่างหนัก หลังจากที่ “พรรคก้าวไกล” ไม่ได้อยู่ใน “สมการ” การจัดตั้งรัฐบาล ที่ผ่านมา “พรรคเพื่อไทย” ถูกโจมตีว่าตระบัดสัตย์ หันไปจับมือกับ “พรรค 2 ลุง” แต่สิ่งเหล่านั้นกำลังจะกลายเป็น “อดีต” แต่ปัจจุบันที่เห็นและเป็นอยู่ คือการที่ “พรรคก้าวไกล”  อยู่ในภาวะที่เจอกับสถานการณ์อันยากลำบาก ...*...

 แม้ “กองเชียร์” ของ “พรรคก้าวไกล” จะพากัน “อวยยศ” กับการตัดสินใจของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่ลาออกจากการเป็น “หัวหน้าพรรค” เพื่อต้องการ “เปิดทาง” ให้คนในพรรค ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่จะไม่สูญเสีย เก้าอี้ “รองประธานสภาฯคนที่1” ให้กับ พรรคอื่น ด้วยหวังว่า “พรรคก้าวไกล”  จะไม่ต้องเสียเก้าอี้ตัวใดตัวหนึ่งไป  แต่ถ้ามองในความเป็นจริงอีกด้านหนึ่ง การที่ “พิธา” ตัดสินใจ สละเก้าอี้ “หัวหน้าพรรค” จะยิ่งซ้ำเติม ขวัญกำลังใจของทั้ง “ด้อมส้ม” ตลอดจนฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล ...*...

เพราะจะเท่ากับว่า เมื่อไม่มี ชื่อ “พิธา” เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว แม้เจ้าตัวจะประกาศว่า จากนี้จะเดินสายพบกับประชาชนทั้งในและต่างประเทศก็ตาม แต่ในแง่ “จิตวิทยาการเมือง” ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระทบแน่นอน  เพราะหนึ่ง กำลังเป็นเหมือน “สัญญาณ” ที่ส่งออกมาว่า หรือ “พิธา” จะรู้ว่าตัวเองอาจไม่มีมีโอกาสได้สภาฯ อีกแล้ว จากกรณีคดีความที่ยังรอการวินิจฉัยอยู่  และเมื่อ “ก้าวไกล”  กับ “พิธา” มีระยะห่างกันมากเท่าใด แม้พรรคจะส่ง “ใคร” ก็ตามขึ้นมาทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” แต่ใช่ว่า คนที่มาใหม่ จะดึงกระแส ได้เท่ากับที่ “พิธา” เคยทำเอาไว้ ! ...*...

ที่มา:พันแสง (18/9/66)