วันที่ 18 ก.ย.66 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า่...
#สามารถ 5 นาที
สามารถ เชื่อ ก้าวไกล จะเข้าชื่อถอดถอน นายกเศรษฐา ส่งศาลรัฐธรรมนูญ
วันนี้ นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาทีว่า
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ต้องขอบคุณครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนผม คลิปไปถึงจะ 3 ล้านวิวแล้วครับ วันนี้ก็ตามที่สัญญาครับว่า วันอาทิตย์ก็จะมาพูดเรื่องของการที่คุณพิธาลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค นั้นจะลามมาถึงการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะอะไรอย่างไร การที่คุณพิธาลาออกนั้น เพื่อที่จะเปิดทางให้พรรคก้าวไกลได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน เนื่องจากคุณพิธานั้นถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ครับ คราวนี้คุณพิธาลาออกแล้วนั้นโดยหลักการ จะต้องให้คุณหมออ๋อง หรือ คุณปดิพัทธ์ สันติภาดา จะต้องลาออกจากการเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ด้วย เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่เหนือสิ่งอื่นใดครับเรื่องเป็นเรื่องของการตกลงกันว่าจะทำอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ผมพูดไปแล้ว
แต่ผมจะมาพูดในเรื่องของที่ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่อย่างไร สิ่งที่ผมวิเคราะห์ให้เห็นครับว่า เมื่อก่อนนั้นคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ 3 เดือน คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 9 เดือน ทั้ง 2 คนนี้ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หลุดจากการเป็นนายกรัฐมนตรีครับ ทั้ง 2 คนนี้เราก็รู้อยู่ว่าใครเป็นคนเลือกมา ไม่ว่าจะเป็นคุณสมัคร สุนทรเวช ไม่ว่า จะเป็นคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในกรณีคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้นถือว่าเป็นพี่เขยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ครับ วันนี้คุณเศรษฐาเองก็มาเป็นนายกรัฐมนตรี ในโควต้าใคร ผมว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนรู้ ผมถึงมาวิเคราะห์ให้ฟังครับว่า จะเป็นอย่างไร
ในสมัยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายแพทย์ ชลน่าน ซึ่งตอนนั้นเป็นฝ่ายค้าน ได้เคยเข้าชื่อ ส.ส. 110 คน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคุณสมบัติพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ส.ส. 110 คน ตรวจสอบคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 ผมก็มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลภายในไม่เกิน 1 เดือนนี้ พรรคก้าวไกลก็จะให้ส.ส.เข้าชื่อ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ตามมาตรา170 ครับ ว่าคุณเศรษฐา ทวีสิน นั้นขาดคุณสมบัติตามมาตรา160(4) หรือไม่ ก็คือต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นที่ประจักษ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีบุคคลหนึ่ง เอาข้อมูลของคุณเศรษฐา และบริษัทในเครือออกมาสู่สาธารณะ ว่าน่าจะมีการเอื้อประโยชน์ น่าจะมีการเลี่ยงภาษี น่าจะมีการทุจริต เกิดขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คุณเศรษฐา ทวีสิน นั้น ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา160(4)หรือไม่ ทั้งยังมีนักวิชาการอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ออกมาพูดว่า การที่คุณเศรษฐา ทวีสิน นั้น นั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น น่าจะขัดกันของผลประโยชน์ เนื่องจากมีการกำกับดูแลกรมสรรพากร ซึ่งน่าจะขัดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา186 วรรคท้ายครับ ผมถึงบอกครับว่าลามครับ น่าจะลามไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ต้องจับตาดูครับว่าพรรคก้าวไกลจะเข้าชื่อส.ส. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ผมมั่นใจครับว่า พรรคก้าวไกลเขาทำแน่ เพราะเขาต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านอย่างชัดเจน ในเมื่อในอดีตนายแพทย์ ชลน่านเคยสร้างบรรทัดฐานไว้ ผมว่าพรรคก้าวไกลก็ต้องเลือกทำเฉกเช่นเดียวกัน
คราวนี้ก็มาดูครับว่า สิ่งที่มีคนออกมาพูดนั้น คุณเศรษฐาได้มีการกระทำผิดตามที่พูดเหล่านั้นหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยครับ ผมถึงบอกครับว่า การเปลี่ยนแปลงของคุณพิธาในการลาออกนั้น จะลามไปตั้งแต่ฝ่ายนิติบัญญัติมีการเปลี่ยนแปลงประธานสภา ฝ่ายนิติบัญญัตินะครับ รอง1 และ 2 ทั้งยังอาจะจะลามมาถึงฝ่ายบริหารนายกรัฐมนตรีตามที่ผมพูด เพราะว่าถ้ามีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อไหร่ ก็อาจจะมีการตกเก้าอี้เหมือนคุณสมัคร เหมือนคุณสมชายก็เป็นได้
เหมือนนักวิชาการที่หลายคนที่ออกมาบอกว่า วันนี้รัฐมนตรีอาจจะมีการปรับเร็ว เพราะเปลี่ยนนายก หรือมีการปรับเร็วเพราะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรี ดังนั้นอย่าแต่งห้องมาก อย่ารีบตั้งคนเยอะ เพราะจะไม่ได้ใช้ เรื่องนี้ก็ฝากกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ