เมื่อวันที่ 16 ก.ย.66 เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์บทกลอนระบุ เนื้อหา
กล่าวถึง "ชา" บางยี่ห้อ ที่นักการเมืองบางคนบอกว่าชอบกิน
"เป็น ชาตื่นรู้ กินเข้าไปเรื่อยๆ แล้วจะมีความเบิกเนตร
มีความเย็นชา ด้านชา ไม่ใช่ ความรู้สึกนะคะ แต่เป็น *หน้า* ค่ะ"
อันนี้ผมไม่ได้พูดนะครับ คนขายเขาบอกเอง 555
352/2023 ชาตาเหลือก
จิตที่เข้า ถึงธรรมะ จึงสว่าง
ก่อนไปถ่าง ตาใคร ให้มองเห็น
ตนเองต้อง ไม่หลงทาง อย่างที่เป็น
วนเวียนเข็น "วาทกรรม" อยู่ร่ำไป
ต่อให้กิน กาแฟชา จนตาค้าง
จิตคงมอง ไม่เห็นทาง สว่างใส
คาเฟอีน อาจมีฤทธิ์ มีพิษภัย
ตื่นที่ตา ตื่นที่ใจ ไม่เหมือนกัน
อย่าให้พวก ทุบหินแตก มา "แหกเนตร"
การตลาด น่าสังเวช ไม่สร้างสรรค์
ไม่ได้เรื่อง ถ้าการเมือง มาพัวพัน
ชาไม่ปั่น แต่คนปั่น ไม่บันเทิง
ถ้าหน้าหนา ปากอ้า นัยน์ตาเหลือก
มีคนเลือก เพราะหลงเปลือก อย่าเจือกเหลิง
เฝ้าเล่นมุก ไม่เข้าท่า กันร่าเริง
จนเตลิด เปิดเปิง เที่ยวเบิ่งตา
หยิบชาไทย เอามาใช้ เพื่อด่าแขวะ
ให้ด้อมฟิน กันจนแฉะ ร่วมแซะด่า
หมกหมุ่นกับ การยุแยก แม้แดกชา
หยุดสรรหา มุกไม่ขำ อำปวงชน
ไม่เข้าใจ มีตรงไหน เรียก "ตื่นรู้"
เห็นวิธี ที่ต่อสู้ ดูสับสน
มุ่งเน้นกล่อม และมอมเมา เยาวชน
จนวันนี้ มีเด็กซน ล้นสภา
ก็ขอเชิญ ดื่มกันหนา "ชาตาเหลือก"
พวกที่เลือก พวกกร้าวกร่าง สร้างปัญหา
แล้วได้คน สันดานแปลก มาแหกตา
ดื่มหลายแก้ว แล้วด้านชา ที่หน้าเอย
พี่คนดี
16 กันยายน 2566